update newsข่าวเด่นอาชญากรรม

บุกทำร้ายเด็กหญิงในโรงเรียนจนบาดเจ็บ

***ศรีสะเกษ… ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านแวด ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสสะเกษ ติดตามหาผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดการทำร้ายร่างกายกันของวัยรุ่นหญิง จนเป็นเหตุให้มีคนได้รับบาดเจ็บ ในโพสต์มีภาพเด็กสาวใส่หมวกตำรวจเต้นโชว์บอกไม่กลัวตำรวจ

***สืบเนื่องจากเพจเฟซบุ๊คชื่อ “ของมือสอง ศรีสะเกษ” โพสต์คลิปวัยรุ่นทำร้ายร่างกายกัน ถึงได้พบกับวัยรุ่น 4-5 นั่งเล่นกันอยู่ที่ม้าหินอ่อนในโรงเรียนดังกล่าว จึงสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่าผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายคือ ด.ญ.ส้ม (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.น้ำเกลี้ยง จึงได้ติดตามไปที่บ้านของน้องคนดังกล่าว

พบกับนายชาลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี ตาของน้องผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ตอนเย็นหลานสาวกลับมาจากไปเล่นข้างนอกมาถึงบ้านเพื่อนของหลานที่มาด้วยก็แยกย้ายกันกลับ หลานสาวเปลี่ยนเสื่อผ้าอาบน้ำกินข้าวแล้วเข้าห้องไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง จนกระทั่งเช้า มีเพื่อบ้านเห็นข่าวในเฟซได้มาเล่าให้ตนฟัง ตนจึงถามหลานสาวทราบว่าถูกทำร้าย จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านพาไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.น้ำเกลี้ยง

***ส่วน ด.ญ.ส้ม ผู้ที่ถูกทำร้าย เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 26 มิ.ย.ขณะที่ตนกับเพื่อนนั่งเล่นกินขนมกันอยู่ที่ม้าหินอ่อนในโรงเรียน มีกลุ่มวัยรุ่นหญิง 4 คน ซึ่งตนไม่รู้จัก ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมาสองคัน มาถึง มีคนหนึ่งลงจากรถเดินเข้ามาหาตน ซึ่งตนเห็นท่าไม่ดีคิดว่าเขามาทำร้ายแน่จึงลุกขึ้นพยายามเดินหนี แต่อีกคนได้จับแขนตนดึงไว้ คนที่ลงมาก่อนได้เข้ามาตบตีตนและจับตนเหวี่ยงจนล้มลงกับพื้น

จังหวะนั้นเพื่อนๆ ของตนไม่มีใครกล้าเข้าช่วยเพราะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุมีไม้เบสบอลมาด้วย จึงไปบอกครูที่บ้านพักครูในโรงเรียนพอครูเดินมาห้ามกลุ่มก่อเหตุได้แยกย้ายกันขึ้นรถขับขี่หนีไป ตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและปาก คาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากการที่เพื่อนของตนได้ทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นในเฟส แล้วมีการท้ายทายกัน เช้านี้ตาได้พาตนเข้าไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน

***ด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง กล่าวว่า ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความของลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีที่ถูกทำร้าย แต่ไม่ได้ประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดี พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ให้แล้วตามความประสงค์เรียบร้อยแล้ว.

ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / รายงาน