ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินสหกรณ์ตำรวจพัทลุงแล้ว 24 ราย เข้ามอบตัวแล้ว 8 ราย
*****พัทลุง..ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่มีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท จน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. นำทีมงานสอบสวนของ สตช. ลงพื้นที่คลี่คลายคดีดังกล่าวร่วมกับชุดสอบสวน ภ.9 และ ชุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง ต่อมาทางพนักงานสอบสวนทั้ง 3 ชุด ได้รวมรวมเอกสารหลักฐานยื่นขอหมายจับต่อศาลจังหวัดพัทลุง เพื่อขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในงวดที่ 1 จำนวน 24 คน ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
*****ล่าสุดศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายกลุ่มผู้ต้องในคดีดังกล่าว ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2565 กลุ่มผู้ต้องหามี 24 คน ประกอบด้วยอดีตผู้จัดการสหกรณ์และพวก กระทั่งเมื่อสายวันที่ 6 มิ.ย.ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.ท.หาญพล รามด้วง รอง ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ต.สุทิน แดงช่วง สว.สส.สภ.เมืองพัทลุง ร.ต.อ.กฤษ เต็มยอด รอง สว.สส.ฯ พร้อมพวก ร่วมกันรับมอบตัวของกลุ่มผู้ต้อง 8 คน
*****ต่อมา ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง จึงได้นำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ไปมอบให้กลุ่มพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว ฐานความผิด “ ลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ์ และใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม “ โดยกลุ่มผู้ต้องหาทุกๆคนได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่มีส่วนรู้เห็นและกระทำความผิดในข้อหาดังกล่าว ขณะกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือนั้นหลายรายติดต่อเข้ามอบตัวกับชุดสืบสวนของ สภ.เมืองแล้วเช่นกัน ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งหลักทรัพย์ค้ำประกันคนละ 200,000 บาท แต่ในขณะนี้ทุกคนอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำของพนักงานสอบสวน ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง โดยไม่ยินยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปเก็บภาพและทำข่าวภายในห้องโดยเด็ดขาด
*****ทางด้านสมาชิกกลุ่มหนึ่งได้ออกมาเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้พวกตนไม่มั่นใจในการบริหารงานของสหกรณ์ฯ ดังนั้น พวกตนจะได้ร่วมกันลงรายมือชื่อเพื่อขอการคุ้มครองจากศาลจังหวัดพัทลุง ในการขอชะลอการจ่ายค่าหุ้น ค่าประกันชีวิต เงินกู้สามัญ เงินกู้ฉุกเฉิน ฯลฯ ออกไปก่อนในระยะที่ศาลเห็นสมควร เนื่องจากสถานการณ์การของสหกรณ์ฯในขณะนี้ยังน่าเป็นห่วงยิ่ง ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป