บวชแพะในคดียาเสพติดหลังพ้นเวรพ้นกรรมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสู้คดีนาน2ปีอาญาศาลพิพากษายกฟ้อง
*****พระนครศรีอยุธยา..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 ที่วัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูเกษมจันทวิมล หรือพระอาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม น.ส.พราวารีย์ มณีสาย อายุ 58 ปี (แม่) ร่วมกันปลงผม นายวีรโชติ สุทธิกุล เพื่อเข้าอุปสมบทที่โบสถ์ของวัดป้อมรามัญ หลังจากศาลอาญา ถ.รัชดาพิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีที่นาย วีรโชติ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันสมคบค้ายาเสพติด และฟอกเงิน เนื่องจากมีผู้นำชื่อและเลขบัตรประชาชนไปใช้ในการส่งพัสดุที่ซุกซ่อนไอซ์ 2 กก. และยาบ้า 2 แสนเม็ด ไว้ในลำโพงเหตุเกิดเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา
*****ศาลพิพากษาว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิด ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษายกฟ้อง และให้ออกหมายปล่อยจำเลย เพื่อปล่อยตัวจากเรือนจำ ในช่วงที่ต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวต่อสู้คดี เป็นเวลากว่า 2 ปี จนพ้นมลทินด้วยพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า นายวีรโชติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
*****ขณะที่บรรยากาศงานอุปสมบทเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีญาติและ นางสาวกาญจนาภา วิชัยดิษฐ กรรมการบริษัท ดีวีเอ็มวีเอส จำกัด ที่นายวีรโชติ ทำงานอยู่ร่วมเป็นเป็นเจ้าภาพในการอุปสมบท และได้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวตลอดระยะเวลาที่มีการต่อสู้คดี ภายหลังการอุปสมบท นายวีรโชติ ได้รับฉายา “โชติธัมโม” แปลว่าผู้มีแสงสว่างในทางธรรม โดยจะบวช ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดป้อมรามัย เป็นเวลา 9 วัน
*****นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า วันนี้ตนเองและครอบครัวของ วีรโชติ แพะในคดียาเสพติด ที่พ้นมลทิน เป็นแพสีขาว มาบวชอุทิศส่วนกุศล ให้กับผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านที่ให้การช่วยเหลือ และถือว่าเป็นการพ้นเวรพ้นกรรมกลับมาใช้ชีวิตอย่าปกติ ได้กลับไปทำงาน ส่วนที่พามาบวชวัดป้อมรามัยเพราะตนเองเป้นลูกศิษย์ให้ความเคารพนับถือ พระอาจารย์แดง ตั้งแต่รับทำคดีนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าหากชนะคดี จะพาวีรโชติมาบวชพระ และเป็นลูกศิษย์ ของพระอาจารย์แดง หลังจากที่การบวชและปฏิบัติธรรมเสร็จสิ้นแล้ว ตนเองยังจะช่วยเหลือในการดำเนินคดีฟ้องร้องกับผู้มีส่วนเกี่ยวในคดีที่พระวีรโชติ ต้องสูญเสียอิสรภาพไปเป็นเวลา 2 ปี
*****ด้านพระวีรโชติ กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่พ้นมลทิน และดีใจมากในวันนี้ที่เราได้บวชให้พ่อแม่และผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือ หลังจากที่ตนเองถูกจับกุมตัวดำเนินคดี ต้องไปอยู่ในเรือนจำทนทุกข์ทรมานมาก เป็นห่วงแม่และลูกมากว่าจะอยู่กันอย่างไร เพราะเราเป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่มีความหวังตนเองจะพ้นมลทินได้ จนทาง นายอัจฉริยะ ได้เข้ามาช่วยเหลือมีความหวัง ต้องขอขอบคุณ นายอัจฉริยะ ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือตนเองนับตั้งแต่วันแรก ช่วยเหลือครอบครัวตนเอง ช่วยเหลือเรื่องคดี จนชนะคดีพ้นมลทินได้ออกมาใช้ชีวิตปกติ และ ถึงวันนี้ ได้พาบวช
*****ส่วนนางสาวพราวารีย์ มณีสาย อายุ 58 ปี แม่กล่าวว่า นับตั้งแต่งแต่วันแรกที่ลูกถูกจับกุมร้องไห้ทุกวันเครียดมาก พยามทุกทาง ไปทุกหน่วยงาน ไปหาสื่อทุกแขนง ที่จะช่วยเหลือเราได้ พอ นายอัจฉริยะ ได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้มีความหวังขึ้นมา ต้องขอขอบคุณนายอัจฉริยะ อีกครั้ง ที่เข้ามาช่วยเหลือทุกอย่าง จ เหมือนได้กลับมาเกิดใหม่ หมดเคราะห์ หมดทุกข์ หมดโศก