update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศสิ่งแวดล้อม

วัดป่าจ้างรถแบ๊กโฮขุดลอกลำห้วย พร้อมแผ้วถางป่าชุมชน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมะ

***ศรีสะเกษ…ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญเพ็ง ดวนใหญ่ กำนัน ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ พร้อมผู้ใหญ่บ้านหนองนารี หมู่ 8 และผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนแดงโนนม่วง ประชุมร่วมกับคณะกรรมการป่าชุมชนหนองนารี หารือเรื่องที่ทางวัดป่าพิมลมังคลาราม จ้างรถแบ๊กโฮมาขุดลอกลำห้วยเก่าที่ตื้นเขิน โดยได้มีการแผ้วถางตัดต้นไม้เป็นการทำลายป่า ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้ โดยมี ดร.พระมหา ติ่ง มหิสสโร พระลูกวัดป่าพิมลมังคลาราม ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษร่วมประชุมด้วย

***นายสมร สุปัตติ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 8 ต.บุสูง คณะกรรมการป่าชุมชนหนองนารี กล่าวว่า ตนเห็นมาตั้งแต่เกิดแล้ว พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าอยู่ในเขตปกครองของอำเภอวังหิน ให้เทศบาลตำบลบุสูงเป็นหน่วยงานดูแล ตนเกิดมาอายุได้ 70 กว่าปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้นำกล้องมาส่องจับแนวเขตพร้อมกับบอกว่า ต้องยึดเอาลำห้วยสำราญเป็นแนวเขต และเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งว่าป่าผืนนี้มีเนื้อที่ 700 กว่าไร่

***ส่วนที่ผู้ใหญ่บ้านหนองนารี บอกว่าเห็นด้วยที่ทางวัดจะขุดลอกลำห้วย ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือทำเป็นที่ปฏิบัติธรรม ตนมองว่าผู้ใหญ่บ้านพูดไม่ถูก ทำไม่ถูก ที่จะให้ดำเนินการแบบนั้น ตนเห็นว่าเป็นการทำลายป่า ต้องการให้อนุรักษ์ รักษาไว้ให้ลูกหลานได้ดูได้เห็นป่า ซึ่งนับวันจะหายากไปเรื่อยๆ เพราะป่าถูกบุกรุกทำรายจนจะหมดแล้ว

***ด้าน ดร.พระมหาติ่ง มหิสสโร พระลูกวัดวัดป่าพิมลมังคลาราม กล่าวว่า ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ เกิดจากความไม่เข้าใจกันระหว่างประชาชนทั้งสองฝั่งสองอำเภอคือฝั่งบ้านหนองนารี ต.บุสูง อ.วังหินกับฝั่ง กับประชาชนฝั่งบ้านโนนแดงโนนม่วง ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย เพราะชาวบ้านโนนแดงโนนม่วง บอกว่าผืนป่าดังกล่าวนี้อยู่ในเขตของบ้านโนนแดงโนนม่วง แล้วมีการบุกรุกเข้ายึดเป็นที่ทำกินเข้ามาปลูกไม้ยูคาลิปตัส จึงต้องการให้ทางวัดเข้ามาพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนา เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ทุกคนเข้ามาศึกษาเรียนรู้พระธรรมวินัยได้ พร้อมกับขุดลอกลำห้วยเดิมที่ตื้นเขินไปทางวัดจึงได้ตั้งงบประมาณจ้างรถแบ๊กโฮเข้ามาขุดลอก โดยไม่ได้แผ้วถางป่า

***ดร.พระมหาติ่ง กล่าวอีกว่า “ขณะที่ทางวัดจะตัดแต่ต้นไม้ยูคาลิปตัสออกเท่านั้น เพราะเป็นการลักลอบเข้ามาปลูก เป็นการขอพื้นที่คืน ไม่มีการตัดโค่นต้นไม้ยืนต้นอย่างอื่น แล้วก็จะมีการปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนในพื้นที่ว่าง เพื่อเป็นการคืนต้นไม้ให้ป่าให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ การขุดลอกลำห้วยก็เพื่อให้น้ำไหลเข้ามาได้เหมือนแต่ก่อน จะทำให้มีสัตว์น้ำสัตว์ป่าเข้ามาอีกมากมาย ชาวบ้านจะได้หาประโยชน์จากป่านี้ด้วยการเข้าไปหาเก็บเห็ดเก็บของป่า และเมื่อมีประชาชนพุทธศาสนิกชนมาศึกษาธรรมะ มาปฏิบัติธรรมก็จะเกิดมีการซื้อขายสินค้าจะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทำให้เกิดมีรายได้เข้ามาสู่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล /รายงาน