พายุฤดูร้อนถล่มสังขละบุรี หลังคาบ้านลอย ต้นไม้ ล้มทับบ้านทับถนนไฟดับ
*****กาญจนบุรี..ผู้สื่อข่าวร่ายงานว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลวังกะ ฝ่ายปกครองอำเภอสังขะบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน พัดถล่มพื้นที่อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พัดหลังคาบ้านปลิว ต้นไม้ล้ม บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง อาคารสถานที่ทั้งหน่วยงานรัฐ และประชาชน พื้นที่การเกษตร สวนยาง สวนทุเรียน เสียหายจำนวนมากเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 เม.ย.66
*****นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี ร่วมลงพื้นที่ เพื่อสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ทำการเก็บหลักฐานถ่ายภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือเยียวยา จากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายประมาณ 53 หลังคาเรือน แบ่งเป็นฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ 31 หลังคาเรือนโดยเกิดความเสียหายมากที่สุดในพื้นที่ ซ.วัดศรีสุวรรณ และฝั่งชุมชนบ้านวังกะชุมชนไทยรามัญ บริเวณชุมชนดงสัก ชุมชนสะพานมอญ รวมจำนวนกว่า 22 หลัง แต่ละหลังได้รับความเสียหายตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งทางเทศบาลฯพร้อมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ โดยวันจันทร์ที่ 1 พ.ค. 2566 จะมีการนำเข้าวาระที่ประชุมของคณะกรรมการช่วยเหลือ เพื่อจะเร่งให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเนื่องจากในพื้นที่เข้าสู่ฤดูฝน
*****นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ เผยว่า ทางด้านเทศบาลตำบลวังกะยังคงระดมทีมงานเพื่อตัดต้นไม้ที่ล้มขวางเพื่อเปิดเส้นทางการจราจร และเร่งตัดต้นไม้ที่ล้มทับบ้านเรือนประชาชน และสถานที่ราชการ อาทิโรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี ที่โดนพายุพัดศาลาหน้าโรงเรียนพังทั้งหลัง และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บถูกศาลาทับ 1 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เนื่องจากอาการรุนแรงกระดูกหักหลายแห่ง กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 134 ได้รับความเสียหายพายุพัดศาลาพัง 1 หลังเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเทศบาลตำวังกะขอให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในพื้นที่ของเทศบาลฯมาลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่เทศบาลวัง
*****น.ส.พรเจริญ ปุณณะการี อายุ 20 ปี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเคยเห็นพายุที่รุนแรงเช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต และเนื่องจากบ้านหลังนี้อยู่ในทิศทางลมพายุ และติดแม่น้ำสามประสบหัวสะพานไม้อุตตมะนุสรณ์ จึงได้รับความเสียหายมากหลังคาบ้านพัดหายไปทั้งหลัง ช่วงเกิดเหตุตนและพ่อ แม่ พร้อมหลานๆนั่งอยู่ในบ้าน แต่หลังจากที่หลังคาบ้านปลิวไปกับแรงลมตนรีบวิ่งเก็บสิ่งของสำคัญในการทำงาน เช่นโน๊ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูปและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ออกจากบ้าน เนื่องจากฝนตกหนัก พร้อมวิ่งไปอาศัยบ้านของเพื่อนบ้านหลบพายุและฝน ต้องไปอาศัยบ้านญาตินอน คงต้องอาศัยนอนเช่นนี้อีกสักระยะจนกว่าจะซ่อมหลังคาบ้านเสร็จ ได้แจ้งขอความช่วยเหลือกับเทศบาลเรียบร้อยแล้ว
จิตรภานุ ทองผาภูมิพรทวี/รายงาน