update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศสิ่งแวดล้อม

พ่อเมืองแพร่งัดกฎเหล็กห้ามเผาที่โล่ง

***แพร่..0นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผวจ.แพร่ เผยว่า เนื่องจากช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย.ทุกปีพื้นที่จังหวัดแพร่ประสบปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่งซึ่งมีสาเหตุจากการเผาพื้นที่ป่าการเผาพื้นที่การเกษตรการเผาวัชพืชริมทางและการเผาขยะมูลฝอยในชุมชนประกอบกับลักษณะภูมิอากาศที่เป็นแอ่งกระทะสภาวะอากาศที่แห้งแล้งและนิ่งความกดอากาศสูงแผ่ปกคลุมทำให้ฝุ่นละอองแขวนลอยในบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน

***ดังนั้นจังหวัดแพร่ จึงกำหนดให้วันที่ 1 ก.พ.-30 เม.ย. เป็นช่วงวิกฤตหมอกควันและกำหนดให้ทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้านในท้องที่จังหวัดแพร่เป็นเขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่งขอให้หน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่จังหวัดแพร่ปฏิบัติดังนี้

***ห้ามเผาเด็ดขาดในทุกพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่าพื้นที่เกษตรกรรมพื้นที่ริมทางหลวงพื้นที่ชุมชนและเมืองทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีการเผาในช่วงก่อนและหลังประกาศช่วงวิกฤตหมอกควันให้ขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองท้องที่นั้น ก่อนดำเนินการทุกครั้ง รวมทั้งต้องทำแนวกันไฟควบคุมการเผาอย่างใกล้ชิดไม่ให้เกิดการลุกลาม ทั้งนี้จังหวัดจะพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศประกอบกับการชะลอหรือระงับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยวิธีการเผา

***ผวจ.แพร่ กล่าวอีกว่า หากพบเห็นไฟป่าไฟไหม้ในที่โล่งพื้นที่ต่างๆ พื้นที่ริมทางหลวงหรือพื้นที่ริมทางหลวงท้องถิ่นและสถานที่กำจัดขยะชุมชนขอให้เข้าดับไฟโดยทันทีหากไม่สามารถดำเนินการได้ขอให้แจ้งหน่วยงานควบคุมไฟป่าหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกำนันผู้ใหญ่บ้านในท้องที่หรือโทรแจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 สายด่วนทางหลวง 1586 สายด่วนทางหลวงชนบท 1141 สายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายแจ้ง 191 ตลอด 24 ชม.

***นายสมหวัง กล่าวอีกว่า หากผู้ใดฝ่าฝืนจุดไฟเผาป่าหรือเผาในที่ในพื้นที่โล่งพื้นที่ต่างๆ มีความผิดตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2485 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ 2507 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ. ศ. 2562 พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 รวมทั้งเทศบัญญัติหรือข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งที่กำหนดไว้โดยมีบทกำหนดลงโทษตามกฎหมายดังกล่าว