update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศสาธารณสุข

พัทลุงเก็บเกี่ยวใบกัญชานำร่องของภาคใต้

***พัทลุง…ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00  น.วันที่  27 ก.พ.ที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาปะ  อ.บางแก้ว  ดร.นาที  รัชกิจประการ  ประธานคณะที่ปรึกษา นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ประธานในพิธีเก็บเกี่ยวใบกัญชาแห่งแรกในภาคใต้ ซึ่ง รพ.สต.นาปะขอ  และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาปะขอ ร่วมกันปลูกขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่นำร่องของภาคใต้  ตามโครงการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์  โดยใช้งบประมาณของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาปะขอ 1.8  ล้านบาท

***ภายใต้การกำกับ ควบคุมดูแลของสำนักงานคณะกรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.)   สำหรับการปลูกกัญชาตามโครงการดังกล่าวนี้แบ่งเป็น  2  รุ่น  โดยรุ่นแรกได้ปลูกไปแล้ว  144  ต้น   ซึ่งมีการเก็บเกี่ยวใบกัญชาในครั้งนี้  ส่วนรุ่นที่  2  ได้ปลูกแล้ว  144  ต้น  เมื่อวันที่  21   กุมภาพันธ์  2564  ที่ผ่านม

***ทั้งนี้เพื่อนำผลผลิตกัญชาไปใช้เป็นวัสดุในการผลิตตำรับยาแพทย์แผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสม คือ น้ำมัน “ สนั่นไตรภพ “ ที่ปลอดภัยให้แก่ รพ.สต.บ้านนาปะขอ  เพื่อนำผลผลิตกัญชาซึ่งเป็นวัตถุดิบให้กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพรไทย กรมการแพทย์ และแพทย์ทางเลือกในการผลิตยาแผนไทย หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ  เพื่อสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์กัญชาของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน

***อีกทั้งให้วิสาหกิจชุมชนมีรายได้จากการลงทุนจากการจำหน่ายแก่ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งใบ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่ง ก้าน และราก ที่นำไปใช้ในการผลิตผิตภัณฑ์สุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ อาหาร เครื่องสำอางสิ่งทอ  รวมทั้งการสนับสนุนกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น การนวด การอบ การประคบ ฯลฯ   สำหรับน้ำมัน “ สนั่นไตรภพ “ นั้น  ทาง  รพ.สต.บ้านนาปะขอ ได้นำน้ำมันดังกล่าวไปบริการแก่ประชาชนในพื้นที่ ต.นาปะขอ ที่ผ่านการสำรวจผู้ป่วยที่เข้าด้วยกัญชา จำนวน 407 คน

***ดร.นาที  กล่าวว่า นโยบายการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่เคยนำมามาหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา  จากนี้ไปจะมีการขยายการปลูกกัญชาไปยังสมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาปะขอคนละ  6  ต้น  ซึ่งผู้ที่จะปลูกจะต้องมายื่นขออนุญาตของ  รพ.สต.บ้านนาปะขอให้ถูกต้อง  ส่วนบุคคลภายนอกยังปลูกไม่ได้  สำหรับกัญชาที่ตัดใบในวันนี้นอกจากจะนำไปใช้ในการแพทย์แผนไทย   และนำไปสกัดเป็นน้ำมันกัญชาอีก  16  ตำรับแล้ว  จะมีการขยายไปสู่การทำเครื่องสำอาง  อาหาร  โดยในส่วนของอาหารนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้นำกัญชามาจัดทำเป็นอาหารได้แล้ว  ในส่วนของการจัดทำเครื่องสำองค์ก็จะมีการขับเคลื่อนตามขั้นตอนกันต่อไป

***สำหรับกัญชานั้นนับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนกินได้  นอนหลับดีขึ้น  ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคดีขึ้น  อันจะเกิดประโยชน์ต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ดีขึ้นกว่าเดิม  อย่างไรก็ตามกัญชายังเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สำคัญของประเทศไทย  ในการสร้างงานงาน  สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด

***ขณะนี้ราคากัญชาแห้งมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ  20,000บาท  ส่วนต้นกัญชามีราคากิโลกรัมละ  10,000 บาท  แต่ในขณะนี้ในประเทศไทยมีกัญชาทางการแพทย์น้อยมาก  ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะได้ร่วมกับ  รพ.สต.  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน  จะได้ขยายพื้นที่การปลูกกัญชาให้ครอบคลุมทั้งประเทศ  และจะได้เปิดโอกาสให้เอกชนเข้รับซื้อกัญชาดังกล่าว  ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในขั้นที่น่าพอใจยิ่ง