29 มีนาคม 2024
Latest:
update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศสาธารณสุข

ปราจีนบุรี..0 “รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร” เตรียมผลิตหลักสูตร “การใช้ใบกัญชาปรุงอาหาร” หลังชิมลางเปิดตำรับ “เมนูกัญชา” ประชาชนแห่ขอสูตรแน่นขนัด แถมสื่อต่างชาติให้ความสนใจนำเสนอข้อมูลทั่วโลก

***กรณี รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เปิดตำรับเมนูอาหารจากใบกัญชา จำหน่ายให้เฉพาะบุคลากรของโรงพยาบาล ประเดิมเมื่อวันที่  6 ม.ค.64 พร้อมจัดทำแผ่นป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคใบกัญชาปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละเมนู ทำให้มีผู้สนใจสอบถามข้อมูล และมีการเผยแพร่และส่งต่อแผ่นป้ายดังกล่าวออกไปตามสื่อต่างๆจำนวนมากนั้น

***เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าว “สยามท้องถิ่น” ได้รับการเปิดเผยจาก พญ โศรยา ธรรมรักษ์ ผอ.รพ.เจ้าพระอภัยภูเบศร ถึงความเป็นมาของโครงการดังกล่าวว่า เกิดจาก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นเจ้าภาพจัดทำโครงการกัญชาอภัยภูเบศรโมเดล เป็นการดำเนินการกัญชาทางการแพทย์อย่างครบวงจร ตั้งแต่การปลูกร่วมกับวิสาหกิจชุมชน ผลิตทั้งยาแผนปัจจุบันและแผนไทย การใช้ในผู้ป่วย ศึกษาวิจัยเพื่อเสนอให้เกิดการพัฒนาเชิงนโยบาย และเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.63 มีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขให้ส่วนใบที่ไม่ติดกับช่อดอก กิ่ง ก้าน ลำต้น เปลือก ราก และ เส้นใย ที่ได้รับการยกเว้นไม่เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5

***“ทำให้เราเกิดแนวคิดว่าต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน ในขณะเดียวกันก็สื่อสารไปทางนโยบายและนักวิจัยว่ามีประเด็นอะไรที่เราต้องทำงานวิชาการเพิ่มเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยกลุ่มเป้าหมายของเราหลัก ๆ มี 2 กลุ่ม คือ ผู้บริโภค และผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงพยาบาลฯ ใช้คอนเซ็ปต์ “มาชิมกัญ” เพื่อสร้างความน่าสนใจ เมื่อคนสนใจเราจะให้ความรู้ เพื่อนำไปใช้อย่างถูกต้อง” พญ โศรยา กล่าว

***ผอ.รพ.เจ้าพระอภัยภูเบศร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามประสบการณ์ของคนไทยนั้น จะใช้กัญชาเป็นเครื่องชูรสในอาหารในปริมาณไม่มากนัก หากนำมาปรุงอาหารก็ใช้ประมาณ 3 ยอดต่อแกง 1 หม้อ สามารถรับประทานได้ทั้งครอบครัว สำหรับการบริโภค 1 คน ไม่ควรเกิน 5-8 ใบ/วัน แต่ในองค์ความรู้ปัจจุบันที่มีการศึกษาวิจัยก็พบว่า ในกัญชามีสาร THC หรือ Tetrahydrocannabinol เป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เรียกง่ายๆ ว่า สารเมา  หากบริโภคติดต่อกันในขนาดสูงๆ เป็นเวลานานก็อาจทำให้เสพติดได้ รวมทั้งสารนี้ยังต้องระวังในเด็กและเยาวชน หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยในบางกลุ่มโรค ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับทราบ

***พญ.โศรยา กล่าวด้วยว่า แม้จะมีข้อมูลว่าในใบกัญชามี THC ต่ำกว่าช่อดอกมาก แต่การนำไปบริโภคอย่างไม่เหมาะสมอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพและสังคมได้ อีกทั้งยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการดูดซึมและสะสมสารนี้ในร่างกาย ได้แก่ อายุของใบ (ใบแก่มีสารเมามากกว่าใบอ่อน) การปรุง (ระยะเวลาการปรุง การปรุงอาหารในระยะเวลานาน การปรุงด้วยไขมัน จะทำให้สามารถดึงสาร THC มาอยู่ในอาหารได้ดีขึ้น) น้ำหนักตัว และปริมาณไขมันในร่างกายของผู้บริโภค (สารเมามีแนวโน้มสะสมในชั้นไขมันได้นานขึ้น) ซึ่ง ณ วันนี้เรายังขาดข้อมูลพอสมควรว่าบริโภคเท่าใดจึงจะทำให้ติดได้ ซึ่งหากในอนาคตมีงานวิจัยตรงนี้เพิ่มเติม ก็จะเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

***ส่วนของผู้ประกอบการที่สนใจจะนำกัญชาไปปรุง นั้นเราจะมีการอบรมให้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำหลักสูตร โดยจะนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ศึกษามาอย่างกว้างขวางทั่วโลก มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับให้อาหารไทยมีคุณค่าต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ปัจจุบันผู้ประกอบการซื้อใบจากวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่ส่วนที่ดำเนินการได้ง่ายกว่าคือ กัญชง เพราะเป็นพืชในสกุลเดียวกัน สามารถประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้ง กัญชงก็มีสารเมาน้อยกว่ากัญชา การใช้ในรูปแบบอาหารน่าจะปลอดภัยกว่า ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องกัญชง จะมีผลบังคับใช้ 29 ม.ค. ผู้สนใจสอบถามได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

***ผอ.รพ.เจ้าพระอภัยภูเบศร กล่าวอีกว่า สำหรับ ผู้ที่สนใจอยากร่วมศึกษาเตรียมตัวพบกันได้ในงาน มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน ที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 5-7 มีนาคม 2564 หรือต้องการมาทดลองรับประทานอาหารตำรับกัญชา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ 037-217127 อภัยภูเบศร เดย์ สปา และ 037-211289 ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร