update newsข่าวเกษตรข่าวเด่นเศรษฐกิจ

ดันข้าวหอมมะลิเกรดพรีเมี่ยมให้ทุกสถานทูตชิม ลุ้นส่งข้าวไทยขายทั่วโลก

***กรุงเทพฯ…ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ห้องประชุม 2 อาคารกองวิจัยและพัฒนาข้าว (อาคาร 2 ชั้น) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อวันที่ 1 เม.ย.นายสุขุม วงประสิทธิ ผู้ช่วยพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 22 ในฐานะหัวหน้าคณะสนองปณิธาน 4 ประการ รักษาการ หัวหน้ากลุ่มรักเมืองไทยแห่งสุวรรณภูมิ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัทพรหมชีวา จำกัด พร้อมด้วย น.ส.เตือนใจ ขันติยู ประธานกรรมการบริษัทพรหมชีวา จำกัด  นายธร์วริศ พรพันธริศ ผู้อำนวยการสำนักงานสมาคมสถาบันชาวนาไทย และอุปนายกสมาคม  นายประสิทธิ บุญเฉย กรรมการสมาคมฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานแถลงข่าว  โครงการหุงข้าวชิม เพื่อการส่งออก ในวันที่ 8 เม.ย.64

***นายสุขุม กล่าวว่า โครงการหุงข้าวชิม เพื่อการส่งออก เป็นหนึ่งในโครงการของ บริษัท พรหมชีวา จำกัด ที่จะช่วยสนับสนุนหน่วยงานทางภาครัฐบาล อาทิ กระทรวงพานิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าภายใน ซึ่งในวันที่ 8 เม.ย.จะเป็นวันจัดงานกิจกรรม โดยทางบริษัท พรหมชีวา จำกัด จะนำข้าว 3 แบบ ได้แก่ 1. ข้าวหอมมะลิ 2.ข้าวโอสถ และ 3.ข้าวออแกนิค

***โดยแบบแรก คือข้าวหอมมะลิ ทางบริษัทพรหมชีวา จำกัด ได้ดำเนินการพัฒนาสายพันธ์ข้าว จนได้พันธ์ข้าวหอมมะลิที่มีเอกลักษณ์เฉพาะภายใต้แบรนด์ ข้าวหอมเตือนใจไทย ข้าวหอมมะลินั้นเป็นข้าวที่จัดอยู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพสากล ข้าวหอมมะลิเตือนใจไทย จะเป็นข้าวหอมที่ส่งออกเพื่อทำการตลาดแข่งขันกับข้าวหอมมะลิแบรนด์อื่นๆ ในต่างประเทศ จะเริ่มต้นการตีตลาดที่เวียดนาม เมียนมา ลาว กัมพูชา อินเดีย และอีกหลายประเทศที่ปลูกข้าว หรือบริโภคข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ทางบริษัท พรหมชีวา จำกัด ก็จะนำข้าวหอมมะลิเตือนใจไทยส่งออกเพื่อแข่งขันการทำตลาด เพื่อพี่น้องชาวนาไทยจะได้มีความมั่นใจ มั่นคง ยั่งยืนในอนาคต

***ส่วนข้าวแบบที่ 2 ข้าวโอสถ หรือ ข้าวที่เป็นยา ทางบริษัทพรหมชีวา จำกัด จะทำการส่งเสริมโดยจะมีการวิจัย พัฒนาร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยฯ หรือ ทางการแพทย์ต่างๆ เพื่อทำการตลาดส่งไปต่างประเทสและในประเทศ  และข้าวแบบที่ 3.คือ ข้าวออแกนิค เป็นข้าวปลอดภัย ปลอดสารพิษ โดยการสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาวงการข้าวไทย เป็นสิ่งที่ บริษัท พรหมชีวา จำกัด ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น เพราะเมื่อวงการข้าวเจริญเติบโตดีขึ้น วิถีชีวิต คุณภาพชีวิตของชาวนาไทยก็จะดีขึ้น เช่น เมื่อข้าวออกแกนิค ที่มีราคาสูง ชาวนาที่ปลูกผลิตข้าวชนิดนี้ก็จะสามารถขายได้ราคาดีขึ้นตามไปด้วย

***นายสุขุม  กล่าวด้วยว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดคือนโยบายที่ทาง บริษัท พรหมชีวา จำกัด มีความตั้งใจจะผลักดันสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐบาลและสมาคมสถาบันชาวนาไทย ให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปี สมดุลคุณภาพชีวิตของชาวนาไทยจะกลับมาดีขึ้นอย่างแน่นอน และประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า ‘ครัวโลกในอนาคต’ เราจะส่งข้าวสายพันธ์เตือนใจไทยจะไปอยู่ทุกมุมโลก เพื่อยกระดับข้าวไทยและชาวนาไทย ตรงตามปณิธานของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทย

***ทั้งนี้ปณิธานของ พล.อ.ชวลิต ระบุว่า 1. แก้ไขปัญหาความยากจน (ความเดือนร้อนของประชาชนทุกมิติรอบด้าน) 2. ยกพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเอกของโลก 8,000 ปี และให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 3. ถวายความจงรักภักดีพระบรมราชจักรีวงษ์ 4.พัฒนาคนไทยให้มีอายุขัย 120-160 ปี ด้วยสมุนไพรไทยโอสถธรรม เพื่อดำเนินกิจกรรมพัฒนาบ้านเมือง สู่ความมีสันติสุข มั่นคง ยั่งยืน โดยจะพัฒนาทั้ง 4 ภาค  ตั้งแต่ ล้านนา (ภาคเหนือ) ศรีโคตรบูรณ์ (ภาคอีสาน) อโยธยา (ภาคกลาง) และ ลังกาสุกะ (ภาคใต้) ด้วยยึดหลักสำคัญ ที่ว่า เพราะ..ประชาชน คือหัวใจ

***ด้าน น.ส.เตือนใจ ขันติยู ประธานกรรมการ บริษัท พรหมชีวา จำกัด กล่าวว่า  รู้สึกภูมิใจที่ได้รับเกียรติมามีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่างๆของทางภาครัฐ และสมาคมสถาบันชาวนาไทย ตนและบริษัท พรหมชีวา จำกัด จะช่วยผลักดันเกษตรกร ชาวนาไทย เพื่อให้มีคุณภาพข้าวของไทยที่ดีขึ้น แม้ว่าข้าวไทยแต่เดิมในสายพันธ์ต่างๆ นั้น เป็นของดีอยู่แล้ว เราจะผลักดันพัฒนาให้ชาวนาไทยได้มีข้าวที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก และจะผลักดันส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ เกษตรออแกนิค ปลอดสารพิษ นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ จะช่วยเป็นตัวกลางในการทำตลาดช่วยขายข้าว สมุนไพร สินค้าจากเกษตรกร สิ่งของหัตถกรรม ภายใต้โครงการแพลตฟอร์ม ตลาดนัดออนไลน์เตือนใจไทย

***“มาถึงตรงนี้มีความภูมิใจมากที่ทางหน่วยงานต่างๆ ต้อนรับ บริษัท พรหมชีวา จำกัด อย่างอบอุ่น และให้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาเกษตรกรรม เกษตรกร ชาวนาไทย ตนเองและทีมงาน จะเดินหน้าผลักดันให้ได้ดีที่สุด และจะเป็นเพื่อนแท้ของชาวนา เกษตรกรไทย ตลอดไป”ประธานกรรมการ บริษัท พรหมชีวา จำกัด กล่าวในที่สุด