3หน่วยงานลงพื้นที่ฟาร์มหมู 60 บาท ชี้เป็นเรื่องดีที่ออกมาเปิดเผย ติงบริษัทควรมีธรรมภิบาล และ คุณธรรม เจ้าของฟาร์มจี้ให้ตรวจสอบราคาที่แพงเกินจริง
*****ระยอง..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 ม.ค.นายพนธ์สมิทธิ์ กลางนภา ปศุสัตว์จังหวัดระยอง นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง และ นายธนโชค พงษ์ชวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง นายอธิพงษ์ ตันศิริ ปลุดฝ่ายป้องกันอำเภอแกลง ได้เดินทางมาที่ บรรทมฟาร์มหมู เลขที่ 33 ต.ห้วยยาง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบกรณีที่เจ้าของฟาร์มออกมาเปิดเผยเรื่องราคาหมู และ ไม่มีคนซื้อ เมื่อเดินทางมาถึง นายบรรทม ศึกษา และ นางปริญทิพย์ ศึกษา สองสามีภรรยาเจ้าของฟาร์มหมู ได้ให้ทุกคนอยู่เฉพาะหน้าฟาร์มเท่านั้น เพราะไม่สามารถให้เข้าไปภายในฟาร์มได้ เพราะเป็นสถานที่ปลอดเชื้อ ก่อนที่ทั้ง3หน่วยงานได้ตรวจสอบถึงเรื่องราวและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
*****น.ส.สวียา ปั้นปาน พาณิชย์จ.ระยอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ทางบรรทมฟาร์ม เป็นคู่สัญญากับบริษัทแห่งหนึ่งในการเลี้ยงหมู โดยมีการประกันราคากันอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดในขณะนี้ ซึ่งจะมีการประสานทางบริษัทคู่สัญญาเพื่อตรวจสอบสัญญาว่าเป็นธรรมกับผู้เลี้ยงหรือมาก ที่สำคัญคือต้องมีธรรมมาธิบาล และ มีคุณธรรม กำไรได้แต่อย่าให้มากจนเกินไป เตรียมนำเรื่องเสนอไปยังกระทรวง เพื่อตรวจสอบต่อไ
*****นายพนธ์สมิทธิ์ กลางนภา ปศุสัตว์จังหวัดระยอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งความจริงแล้ว เป็นการทำสัญญากับบริษัทคู่สัญญา โดยมีการตกลงกันเมื่อ 5 เดือน ในราคา 60 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาตลาดในขณะนั้นอยู่ประมาณ 70 บาท โดยผู้เลี้ยงไม่ต้องลงทุนก่อน ทางบริษัทจะส่งลูกหมู พร้อมอาหาร ยาต่างๆมาให้ก่อน โดยจะมีการหักต้นทุนหลังจากขายแล้ว เตรียมประสานทางบริษัทคู่สัญญามาพูดคุยกันว่าจะสามารถเพิ่มราคาให้กับผู้เลี้ยงตามเหมาะสมได้ไหม จะมีการพูดคุยกันต่อไป
*****ด้านนายบรรทม เผยว่า ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ต้องการให้มีการแก้ไขเรื่องราคาหมูที่แพงเกินจริง สังคมจะได้รับรู้ว่าคนเลี้ยงได้เท่าไหร่ ซึ่งได้ราคาเพียงตัวละ ประมาณ 500 บาทเท่านั้น จึงอยากรู้ว่าหมูมันไปขึ้นตรงไหน ไปแพงตรงไหน สังคมจะได้รับรู้ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลก็ต้องการให้ลดราคาหมูลง การออกมาพูดอาจจะเสี่ยงต่อชีวิตก็ได้ แต่ต้องการเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค ส่วนนางปริญทิพย์ ศึกษา เจ้าของฟาร์ม ไม่ได้ตั้งใจจะให้ไปกระทบใคร ไม่มีเจตนาให้ใครเดือดร้อน เพราะตนเองยังต้องทำอาชีพเลี้ยงหมูเลี้ยงชีพไปอีกนาน จึงไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่ออาชีพ จึงขอรับผิดชอบที่พูดออกไปไม่หมด
นิตยา ทุมมานนท์/ระยอง
