4 ธันวาคม 2023
Latest:
update newsข่าวเกษตรข่าวเด่นเศรษฐกิจ

ชาวสวนว้าวุ่น หลังเงาะลิ้นจี่เบตงยอดขายดี สร้างรายได้หลักแสน

*****ยะลา..ผู้สื่อข่าวร่ายงานว่า  นางสุนีพร เหล่าวิวัฒน์เกษม หรือ คุณขวัญ เกษตรกรผู้ปลูกเงาะลิ้นจี่ หรือ เงาะปูลาซัน สวนมาลา บ้าน กม. 9 อำเภอเบตง หนึ่งในผลไม้ขึ้นชื่อของอำเภอเบตง ที่ปลูกมานานกว่า 20 ปี ในพื้นที่ 25 ไร่ จากทั้งหมด 60 ไร่ กล่าวว่า เมื่อก่อนเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือที่กรุงเทพฯ เมื่อพ่อกับแม่อายุมากขึ้นจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิด และทำสวนผลไม้ต่อจากครอบครัว โดยที่สวนจะปลูกทุเรียน มังคุด ลองกอง และเงาะลิ้นจี่ ถ้านับเฉพาะเงาะลิ้นจี่ตอนนี้มีทั้งหมด 100 ต้น  เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วคุณพ่อนำต้นพันธุ์เข้ามาจากประเทศมาเลเซีย  เป็นสายพันธุ์มาจากอินโดนีเซียหลังจากลองปลูกดูทำให้รู้ว่าเงาะลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ดูแลไม่ยาก แต่จะออกผลแค่ปีละครั้ง   โดยช่วงแรก ๆ เราก็เน้นขายให้คนในพื้นที่ ซึ่งการโปรโมตก็จะใช้วิธีบอกกันปากต่อปาก พอคนรู้มากขึ้นก็ขายได้มากขึ้น บางครั้งก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทั้งไทยและมาเลเซียมารับไปวางที่แผงด้วย สองกลุ่มนี้ก็เลยเป็นเหมือนลูกค้าหลักที่อยู่กับเรามานาน ซึ่งปัจจุบันเราก็เพิ่มในส่วนของขายออนไลน์มากขึ้นด้วย ช่วยให้มีคนรู้จักและขายได้มากขึ้น

*****นางสุนีพร กล่าวอีกว่า เงาะลิ้นจี่  เป็นเงาะไร้ขน ผลสีแดงสด มองเผิน ๆ ดูคล้ายลิ้นจี่ยักษ์ รสชาติหอมหวาน เปลือกหนา เนื้อไม่ติดเมล็ด และออกผลเพียงปีละครั้ง สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ซึ่งปัจจุบันยังมีคนปลูกไม่มาก ทำให้ตลาดมีความต้องการค่อนข้างสูงสวนทางกับผลผลิตที่มีไม่เพียงพอ หลังการเก็บเกี่ยวในแต่ละปี จึงต้องเปิดให้ลูกค้าทำการจองโดยแจ้งความประสงค์กับทางสวนไว้ก่อน กระทั่งใกล้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวรอบถัดไปจึงยืนยันการจองอีกครั้ง จึงนับเป็นอีกหนึ่งผลไม้หาทานยากที่มียอดจองข้ามปีเลยทีเดียว  โดยขายให้คนในพื้นที่ กิโลกรัมละ 100 บาท  หากส่งต่างจังหวัด ขายออนไลน์ ขายกิโลกรัมละ 130 บาท  และนอกจากผลแล้ว  ที่สวนของยังมีการเพาะต้นพันธุ์ขายอีกด้วย โดยขายราคาต้นละ 400บาท ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามอายุและความสูงของกิ่งพันธุ์ เช่น ต้นที่มีอายุ 6-9 เดือน สูงประมาณ 70 เซนติเมตร จะมีราคา 450 บาท แต่หากเป็นต้นที่สูงกว่านี้ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก เป็นต้น

*****สำหรับการขยายพันธุ์สามารถทำได้โดยใช้วิธีติดตา ซึ่งจะต้องเพาะเลี้ยงกิ่งพันธุ์จนมีอายุประมาณ 6 เดือน-1 ปี จึงนำลงแปลงปลูก ปกติเงาะลิ้นจี่เป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำเยอะ คอยดูแลรดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ เนื่องจากสภาพอากาศของอำเภอเบตงนั้นมีฝนตกตลอดปีทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำ แต่หากนำไปปลูกในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีสภาพอากาศไม่แน่นอนก็อาจจะต้องปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ

*****ส่วนของรายได้ปกติเราจะคิดโดยเฉลี่ยต่อต้นสมมุติว่าในหนึ่งต้นเก็บได้ประมาณ 20 ตะกร้า ตะกร้าละ 20 กิโลกรัม เฉลี่ยทั้งราคาปลีกและส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 -130 บาท แต่จำนวนนี้ถือเป็นจำนวนที่ไม่ค่อยแน่นอนนัก ถ้าเป็นปีที่มีผลผลิตในระดับปกติไม่ได้มีปัญหาอะไรจะมีรายได้จากการขายเงาะลิ้นจี่  5 แสนบาทต่อปีเป็นอย่างต่ำ ด้วยความที่เงาะลิ้นจี่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ยังไม่แพร่หลายในภาคอื่น ๆ แต่เชื่อว่าในอนาคตจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพืชตัวนี้มีจุดขายในตัวเอง มีเอกลักษณ์ที่ทำให้ดูเป็นสินค้าที่ค่อนข้างพิเศษ บางคนเขาก็จะใช้เป็นของฝากสำหรับผู้ใหญ่  เพราะเป็นผลไม้ที่มีไม่เยอะและยังหาทานยาก

*****สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้าจำเป็นจะต้องทำการจองล่วงหน้า โดยสามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ รวมถึงจำนวนไว้ และรอจนกระทั่งใกล้รอบเก็บเกี่ยวทางสวนจะยืนยันออร์เดอร์อีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะไม่มีการเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า เพื่อป้องกันการตกหล่นที่อาจเกิดขึ้นได้ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร.06-2949-1939 หรือ Facebook : เงาะลิ้นจี่ สวนมาลา กม.9 เบตง

เจษฎา สิริโยทัย/รายงาน