รายงานพิเศษ..
*****เรื่องราวภูมิปัญญาชาวบ้านในตัวเมืองมหาสารคาม ออกหาดัดปลาไหลตามธรรมชาติ ส่งจำหน่ายให้กับแม่ค้าในชุมชน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 400-500 บาท
*****โดยทีมข่าวเดินทางไปพบคุณตาวารินทร์ ยนต์วิราษ์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านแก่งเลิงจาน ตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม กำลังดักปลาไหลตามท้องไร่ท้องนา ด้วยการนำท่อพีวิซี มาประยุคทำเป็นเครื่องมือดักปลาไหล หรือชาวบ้านเรียกบั้งลัน
*****เป็นการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านในอดีตจากเดิมทำมาจากไม้ไผ่และปรับเปลี่ยนเป็นท่อพีวิซีแทนเพื่อง่ายและสะดวกใช้งานได้ยาวนาน
*****คุณตาวารินทร์ ยนต์วิราษ์ บอกว่า ตนเองมีอาชีพดักปลาไหลขายมานานหลายสิบปีแล้ว การดักปลาไหล สามารถหาได้ตลอดทั้งปี เพียงแค่สถานที่นั้นต้องน้ำและเป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์
*****การดักปลาไหล จะต้องมีเหยื่อล่อปลาไหลเข้ามาติดกับดัก คือ หัวหอยเชอรี่ที่ทำการแกะออกจากเปลือกสดๆ หรือไส้เดือนที่หาได้ตามธรรมชาติ จากนั้นก็นำมาใส่ไว้ข้างในบั้งลัน และนำบั้งลันไปวางไว้ตามพุ่มไม้ พุ่มหญ้าในที่มีน้ำ หรือตามหนอง บึง
*****สำหรับการดักจะต้องเอาด้านที่มีงาจุ่มลงในน้ำ และให้ปลายท่ออีกด้านหนึ่งที่ทำเป็นช่องไว้สำหรับให้อากาศเข้าไปโพล่เหนือน้ำ เพื่อให้ปลาไหลที่เข้าไปติดกับดักยังคงตัวสดๆ ไม่ตาย ทำการดักทิ้งไว้ 1 คืน เมื่อปลาไหลได้กลิ่นเหยื่อ ก็หลงเข้ามาติดกับดักบั้งลันและออกไม่ได้
***** จากนั้นในช่วงตอนเช้าสายๆทุกวันตนเองก็จะออกมาเก็บและสำรวจบั้งลัน เพื่อนำปลาไหลไปจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งจองไว้ โดยปลาไหลที่ดักได้ในแต่ละวัน มีน้ำหนักมากกว่า 1-2 กิโลกรัมเลยทีเดียว
*****แล้วนำไปคัดไซร์ ขนาด จำหน่ายให้กับลูกค้า หรือแม่ค้าในร้านอาหาร ในราคา กิโลกรัมละ 150-200 บาท สำหรับ การดักปลาไหล
*****ตนเองอาศัยจดจำวิธีการดักและทำอุปกรณ์ในการดักปลาไหลมาจากพ่อแม่ในสมัยอดีต แตกต่างจากเมื่อก่อนคือจะใช้ไม้ไผ่ในการทำบั้งลัน ปัจจุบันไม่ไผ่ก็เริ่มมีน้อย จึงได้นำท่อพีวีซีมาประยุกต์ใช้แทนแถมใช้งานได้ยาวนานหลายปี
*****นับเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าสนใจยิ่งนัก.!!
ประดิษฐ์ อรรคฮาตศรี/เรื่อง-ภาพ