19 เมษายน 2024
Latest:
update newsการเมืองข่าวเด่น

วรวุฒิ” ชี้ หลังวิกฤตโควิดและสงคราม รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศต้องเก่งหารายได้ ชาติพัฒนากล้า มีนโยบายหาเงินเข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาท มั่นใจทำได้แน่นอน ถ้า รื้อ 4 โครงสร้าง พลังงาน-สินเชื่อ-ภาษี-ระบบราชการล้าหลังได้ ทุกอย่างผ่านฉลุย

*****กรุงเทพฯ..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า หลังวิกฤติโควิดและวิกฤติสงคราม รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศต้องเก่งในการหารายได้เข้าประเทศ พรรคชาติพัฒนากล้าจึงมีนโยบายธุรกิจเฉดสี ที่จะสามารถหารายได้เข้าประเทศได้ 5 ล้านล้านบาท แต่สิ่งที่ต้องทำก่อนคือ เคลียร์โครงสร้างที่เป็นปัญหา 4 โครงสร้างหลักได้แก่ 1. ต้นทุนพลังงาน ซึ่งเป็นต้นทุนทางธุรกิจของทุกอุตสาหกรรม ซึ่งเราเชื่อว่าทำได้ เพราะมีเรื่องของการอิงราคาน้ำจากสิงคโปร์  อิงค่าการกลั่น ค่าการตลาดของโรงงานน้ำมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องปรับจูนกัน ถ้าจูนกันได้ก็สามารถลดราคาน้ำมันลงได้ ตามมาด้วยค่าไฟฟ้า ซึ่งเวลานี้ประชาชนโอดครวญว่าค่าไฟฟ้าสูงขึ้นมาก และเดือนหน้าจะยิ่งสูงกว่านี้เพราะรัฐบาลประกาศขึ้นค่าไฟฟ้า

*****โครงสร้างที่ 2. คือ การเข้าถึงเงินทุนของเอสเอ็มอี หรือผู้ประกอบการ สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ด้วยการยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร และมาใช้เครดิตสกอร์แทน เพราะระบบแบล็กลิสต์บูโร ใช้วิธีการตรวจสอบลูกหนี้เพียงแค่ชำระตรงตามนัดหรือไม่เท่านั้น พอผิดนัดเมื่อไหร่ก็ติดแบล็กลิสต์ทันที ใช่วงโควิดมีคนติดแบล็กลิสต์เพิ่มขึ้น 3 ล้านรายทำให้วันนี้มีคนติดแบล็กลิสต์ประมาณเกือบ 6 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งถ้าเป็นเครดิตสกอร์คนจะไม่ติดเยอะขนาดนี้ เพราะเขาดูพฤติกรรมการชำระหนี้ของคน ๆ นั้น เช่นประวัติการชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าประกัน ฯลฯ มีรายได้กีทาง มีการใช้ชีวิตเสี่ยงหรือไม่เสี่ยงอย่างไร พวกนี้เราเอามาคำนวณเป็นสกอร์หมด อย่างที่ประเทศจีนเขาก็มีบริษัทฟินเทคที่ปล่อยกู้ในระบบเครดิตสกอร์  อัตราการเกิดหนี้เสียต่ำกว่าระบบแบล็กลิสต์บูโรมาก และระบบการคำนวณการให้เครดิตจะถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันของสถาบันการเงิน

*****นายวรวุฒิ กล่าวว่า หากจะปรับโครงสร้างแบล็กลิสต์บูโร ก็ต้องแกกฎหมาย เพราะกฎหมายเครดิตบูโร มันไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่ต้น มีการตัดข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนออกไป เพราะฉะนั้นวันนี้ ก็เลยเป็นระบบที่ค่อนข้างหยาบ คนที่กู้เงินชำระไม่ตรงก็ติดแบล็กลิสต์ไปเลย 3 ปี หลายคนชำระแล้วจะกู้เงินก็ไม่ได้ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการไทยหลายรายต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ย 120 – 240 % ต่อปี ต้นทุนดอกเบี้ยสูงมาก ทำให้การค้าขายไม่ทันต่อการชำระหนี้ เมื่อหนี้ก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ต้องหันไปทำธุรกิจผิดกฎหมาย เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ เครดิตสกอร์จะสามารถแก้หนี้นอกระบบได้ โครงสร้างที่ 3. คือ ปรับโครงสร้างภาษี คนเงินเดือน 40,000 บาทไม่เสียภาษี ซึ่งทำให้รัฐสูญเสียรายได้โดยรวมของมนุษย์เงินเดือนประมาณ  21,000 ล้าน แต่เมื่อเทียบกับเราไปช่วยคนกินเงินเดือนที่ภาระชีวิตเขาหนักหนา รัฐบาลประกาศลดภาษีนิติบุคคลตั้งแต่ปี 2554  ในขณะที่บุคคลธรรมดาเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่เคยได้รับการดูแลมากว่า 10 ปีแล้ว อัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นมาก

***** “ ปีนี้การจัดเก็บภาษี เกินเป้ามาเป็นแสนล้าน ในขณะที่การลดภาษีให้กับมนุษย์เงินเดือน 21,000 ล้านบาท ถือว่าน้อยมาก ถ้าเราทำเรื่องนี้ได้ ก็ยังไม่จำเป็นต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเร็วนัก เพราะจะนำไปสู่เงินเฟ้ออีกมหาศาล ราคาสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้น สินค้าส่งออกมีปัญหา การนำเข้าจะทะลัก สินค้าไทยแข่งกับตลาดโลกได้ยาก ค่าแรงขั้นต่ำเราสูงกว่าเวียดนามเกือบครึ่ง การลงทุนจะไหลไปประเทศเพื่อนบ้าน” นายวรวุฒิ กล่าว โครงสร้างที่ 4. คือ ระบบราชการ ดิจิทัล Government จะทำให้หน่วยยงานรัฐทำงานเร็วขึ้น โปร่งใสขึ้น ลดปัญหาการคอรัปบชั่น วันนี้ข้อมูลบางอย่างยังไม่เชื่อมต่อกัน ติดต่อเรื่องเดียวต้องไปหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง แทนจะจบในมือ ซึ่งหากปรับทั้ง 4 โครงสร้างได้ ก็จะทำให้การหาเงิน 5 ล้านล้านบาททำได้ง่ายขึ้น

*****นายวรวุฒิ กล่าวว่า การหาเงินเข้าประเทศได้เร็วที่สุดตอนนี้คือ การท่องเที่ยว ก่อนเกิดเหตุโควิด เรามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ 40 ล้านคน และในอีก 5 ปี ข้างหน้าเราสามารถขยับไปได้ถึง 80 ล้านบาทได้ เพราะประเทศไทยอยู่ในเรดาร์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจเราสามารถโตได้อีก 100% ถ้าได้รัฐบาลที่บริหารจัดการดี โดยเริ่มจาก เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เพิ่มวันพักอาศัย เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย จากการท่องเที่ยวเชิงช็อปปิ้ง แต่วันนี้ภาษีบ้านเราแพงเกือบที่สุดในโลก ทำให้สินค้าของเราเลยแพงตามไปด้วย นอกจากนี้ยังสามารถปรับการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม เพิ่มอีเวนท์ ดนตรี กีฬา ได้อีกด้วย

*****นอกจากนี้พรรคชาติพัฒนากล้า ยังมีนโยบายเศรษฐกิจสายมู ที่สามารถกระจายไปได้ทั่วประเทศ ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่แค่ 5-6 จังหวัด เมื่อมีคนพักนานขึ้น ทั้งอาหารไทย สินค้าไทย ก็สามารถผลักดันเป็นกระแสหลักได้อีก เช่นเดียวกัน เศรษฐกิจดิจิทัล พรรคชาติพัฒนากล้าเราเสนอว่า ควรทำแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวของไทยเอง ที่ผ่านมาแค่แอพจองโรงเรียน ยังต้องเสียค่า fee ให้กับเจ้าของแพลตฟอร์มถึงปีละกว่า 2 แสนล้านบาท เราไม่ใช่นักการเมือง แต่เราเป็นนักธุรกิจที่อยากมาแก้ปัญหาให้บ้านเมือง จึงต้องเข้ามาเป็นพรรคการเมืองเสีย