24 ตุลาคม 2024
Latest:
update newsข่าวเด่นอาชญากรรม

(ชมคลิปภาพวงจรปิด)ตำรวจปทุมธานีรวบหนุ่มใหญ่บุกงัดตู้บริจาควัดพระเกจิดัง กล้องวงจรปิดบุนทึกภาพจัดเจน

 

*****ปทุมธานี..ผู้สื่อข่ารวายงานว่า พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.เมืองปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เสฐฏพงศ์ ทรงกลด รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สงค์การณ์ สมจิตร สว.สส.ฯ พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้ร่วมกันจับกุมนายสุดใจ หรือ “โกสุด” อายุ 51 ปี บ้านอยู่ ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุงัดตู้บริจาคของวัดชินวรารามวรวิหาร ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

*****พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 11.00 น. นายกัณฑ์อเนก สวัสดิ์เฉลิม กรรมการวัดชินวราราม (ทนายความ) ได้รับมอบอำนาจมาจาก พระราชสิริวัชรรังษี (ชำนาญ อุตฺตมปญฺโญ) หรือ”หลวงพ่อชำนาญ” พระเกจิชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดชินวราราม เดินทางมาแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุธน จิตติภูมิภักดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ว่า วันนี้เวลาประมาณ 08.30 น. ทางวัดได้ตรวจสอบกล้องวงปิดที่ติดตั้งเอาไว้ภายในพระอุโบสถวัดชินวราราม ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยพบว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ได้ขับรถมาจอดภายในบริเวณวัด จากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาภายในพระอุโบสถและได้ใช้ไขควงงัดตู้บริจาคเงินของวัด พร้อมกับลักเอาเงินภายในตู้บริจาคไปประมาณ 5,000 บาท จากนั้นคนร้ายจึงได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป และเมื่อทางวัดเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าตู้บริจาคดังกล่าวนั้นซึ่งเป็นตู้สำหรับ ปิดทองหลวงพ่อทองคำ ได้รับความเสียหาย โดย หน้าตู้ ถูก งัด ออก จนได้รับความเสียหายและเงินภายในตู้ ก็เหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาท จนถึงได้รับมอบหมายให้มาแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

*****หลังจากที่ทางตำรวจได้รับการร้องทุกข์แล้วจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาข้อมูลและติดตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีและพบเห็นลักษณะรูปร่างคนก่อเหตุชัดเจนรวมทั้งหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนจะตรวจสอบเช็คข้อมูลและประวัติผู้ต้องสงสัยทราบชื่อต่อมาคือนายสุดใจ หรือ”โกสุด” ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุม

*****กระทั่งวันนี้ (5 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายสถานที่จับกุมนายสุด ผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนนหน้าสวนสุขภาพ ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จึงควบคุมมาทำการสอบสวน เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้มาก่อเหตุจริงและได้เงินไป 3 พันกว่าบาท สาเหตุที่มาก่อเหตุเนืองจากตกงานไม่มีงานทำ จึงได้มาลักเงินในตู้บริจาคเพราะต้องการเอาเงินไปใช้จ่ายค่าห้องเช่า โดยได้นำเงินที่ลักมาใช้จ่ายหมดแล้ว ก่อนจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ , ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและทำให้เสียทรัพย์” ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 307/2567 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2567

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน