ร้อยเอ็ดมหานครข้าวหอมมะลิสู่ครัวโลก
***ร้อยเอ็ด..0นายชยันต์ ศิริมาศ ผวจ.ร้อยเอ็ด เปิดงานการส่งข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สู่ครัวโลก ที่ วัดบูรพากู่น้อย บ้านกู่กาสิงห์ ต.กู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย เมื่อสายวันที่ 17 พ.ย.โดยการดำเนินของโรงสีศรีแสงดาวร้อยเอ็ด ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด มี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) ดร.พงษ์เทพ อัครธนกุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ผู้จัดการโรงสีศรีแสงดาว และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาหยอด ตำบลกู่กาสิงห์ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 
***ทั้งนี้ นายชยันต์ กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดมีความพยายามและความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและเผยแพร่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณภาพ เป็นที่รู้จักของคนไทยและของโลก และขณะนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นข้าวสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือข้าวจีไอของประเทศไทยและของสหภาพยุโรป จังหวัดร้อยเอ็ดจะได้รับประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนเป็นข้าวจีไอนี้เป็นอย่างมาก เพราะว่าเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ ทุ่งกุลาร้องไห้อยู่ในจังหวัด แผนการพัฒนาจังหวัด มีเป้าหมายการพัฒนา คือ “ มหานครข้าวหอมมะลิ ท่องเที่ยววัฒนธรรมอีสาน และสุขภาพดี ภายในปี พ.ศ. 2565 ” และส่งเสริมเกษตรนาข้าวให้สามารถปลูกข้าวหอมมะลิได้ไม่น้อยกว่า 600 กิโลกรัมต่อไร่
***ด้าน นายสินสมุทร ศรีแสงปาง เจ้าของโครงการศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด กล่าวว่า การปลูกข้าวหอมมิลิทุ่งกุลาร้องให้ในปีนี้ โรงสีศรีแสงดาว ได้มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาการผลิต เช่น การปรับระดับพื้นที่นาด้วยแสงเลเซอร์ เพื่อให้พื้นที่ราบเรียบสะดวกต่อการบริหารจัดการน้ำ การใช้โดรนหว่านปุ๋ยแทนแรงงานคน ร่วมวิจัยปุ๋ยสำหรับข้าวหอมมะลิกับศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และปลูกด้วยวิธีหยอดแทนการหว่าน รวมถึงการประยุคใช้ระบบ GPS เข้ามาในเครื่องจักรเกษตรทำให้การทำงานแม่นยำขึ้นและไวขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเป็นการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพของผลผลิตได้ โดยร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
