ไทยเบฟฯจับมือบริษัทประชารัฐฯหนุนปลูกกระจูดทะเลน้อย
พัทลุง ..0นางธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ทางบริษัทฯได้มุ่งหวังที่จะสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถจัดการตัวเองได้ มีชีวิตที่ดีที่ขับเคลื่อนด้วยน้องสานพลังเพื่อบ้านเกิด เป็นโครงการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่กับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ภายใต้โครงการ ชุมชนดีมีรอยยิ้มควนขนุน ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพัทลุง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพัทลุง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สำนักงานภาคใต้ กองพันทหารช่างที่ 401 กองพลพัฒนา ที่ 4 สำนักงานเกษตรอำเภอควนขนุน ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ร่วมกันปลูกกระจูดนำร่องเป็นแปลงสาธิต ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนศูนย์ศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียว ต.ทะเลน้อย จำนวน 4 ไร่
หลังจากนั้นคณะดังกล่าวก็ได้ต่อยอดพื้นที่ปลูกกระจูดเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่าช้างฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท่องเที่ยววิถีนา ท้องที่ ม.5 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เนื้อที่ 80 ไร่ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยและของประชาชน นอกจากนั้นยังขยายการปลูกกระจูดไปยังพื้นที่ ต.ชัยบุรี ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ต.พนางตุง และ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ไม่น้อยกว่า 500 ไร่ โดยหลังจากการปลูกไปประมาณ 1 ปี ก็สามารถนำกระจูดไปจำหน่ายหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากเสื่อกระจูดได้ทันที
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า การดำเนินงานดังกล่าวนี้เป็นการสนับสนุนการผลิตภัณฑ์จากเสื่อกระจูดให้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้ครบวงจร เนื่องจากที่ผ่านมาพื้นที่ ต.พนางตุง ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน มีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์จากเสื่อกระจูดมากกว่า 15 กลุ่ม โดยกระจูดที่นำมาจัดทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่สั่งซื้อมาจาก ต.เคร็ง อ.ชะอวด และ จ.นครศรีธรรมราช และจากพื้นที่ จ.นราธิวาส ในราคามัดละ 40-60 บาท เนื่องจากในพื้นที่ อ.ควนขนุน มีการปลูกกระจูดเพียงน้อยนิดเท่านั้น โดยในแต่ละปีมีต้นทุนในการจัดซื้อต้นกระจูดประมาณ 60 – 80 ล้านบาท ในขณะที่ยอดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์จากเสื่อกระจูดในประเภทต่างๆในปี พ.ศ.2562 ที่ผ่านมาของจังหวัดพัทลุงมียอดจำหน่ายพุ่งสูงถึงกว่า 1,200 ล้านบาท ทางบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ประชา รัฐรักสามัคคีพัทลุง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชน ฯลฯ มั่นใจว่า การขยายพื้นที่ปลูกกระจูดในพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง อ.ควนขนุน เนื้อที่ไม่น้อยกว่า 600 ไร่ในครั้งนี้ จะสามารถลดต้นทุนการผลิตภัณฑ์จากเสื่อกระจูดให้ต่ำลง และเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรที่นำพื้นที่นาร้าง พื้นที่ว่างเปล่า มาปลูกกระจูด เพื่อเป็นอาชีพเสริมที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับครอบครัว