2 พฤษภาคม 2024
Latest:
update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศ

ฮือฮางานศพ”ครูจูน”ครูสอนกู้ชีพกู้ภัยเมืองคอน แห่นำพวงหรีดแปลกทำจากอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยมาวางหน้าโลงศพ

*****นครศรีธรรมราช..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ศาลากตัญญูกตเวทิตานุสรร์(ศาลา1)วัดบุญนารอบ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.ณัฐนันท์ ทัศนวิสุทธิ์ หรือ”ครูจูน” อายุ 53 ปี เป็นอดีตหัวหน้างานควบคุมโรคไม่ติดต่อและงานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สนง.สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นครูสอนวิชาการกู้ชีพกู้ภัยให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและมูลนิธิต่างๆในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จนบรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัยและมูลนิธิต่างในพื้นที่ต่างเรียก น.ส.ณัฐนันท์ ทัศนวิสุทธิ์ ว่า”ครูจูน” จนติดปาก เพราะถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณูประการ ที่มีการสอนการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน และผลิตเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและมูลนิธิต่างๆในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียงในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือภัยต่างๆในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราชมาแล้วหลายรุ่นด้วยกัน จนชาวกู้ชีพกู้ภัยและจนท.มูลนิธิต่างยกย่องเป็นครูด้านกู้ขีพกู้ภัย และเรียกติดปากกันว่า”ครูจูน”

*****กระทั่งวาระสุดท้าย”ครูจูน”ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคปัจจุบันที่ รพ.สงขลานครินทร์ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิต่างๆในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และเมื่อวันที่ 8ธ.ค.ที่ผ่านมาได้มีการนำร่างของ”ครูจูน”มายังฌาปนสถานวัดบุญนารอบ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าในวันดังกล่าวได้มีรถกู้ชีพกู้ภัยและมูลนิธิต่างๆจำนวนกว่า 100 คันได้นำขบวนร่าง”ครูจูน”จาก รพ.สงขลานครินทร์ เพื่อแสดงความอาลัยกับครูจูนตลอดเส้นทางเกือบ200กม.

*****ขณะที่บรรยากาศงานศพของครูจูน ได้มีญาติมิตรและเพื่อนผู้ร่วมงานและจนท.กู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิต่างๆจำนวนมากไปร่วมงานเพื่อแสดงความไว้อาลัยกับครูจูน บรรยากาศภายในงานศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งบริเวณหน้าโลงศพนอกจากพวงหรีดจากดอกไม้แล้วจำนวนมากแล้ว ทางจนท.กู้ชีพกู้ภัยและมูลนิธิต่างๆได้มีผลิตพวงหรีดเป็นอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยต่างๆไม่ว่าเป็นจะเป็นเปลหามคนเจ็บ กระเป๋าพยาบาลกู้ชีพ กรวยสะท้อนแสงในที่เกิดเหตุและอีกๆหลายอย่างจนสร้างความฮือฮาให้กับผู้มาร่วมงานศพของครูจูนเพราะถือว่าเป็นพวงหรีดที่แปลกที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน เพราะหลังเสร็จงานศพแล้วทางเจ้าภาพยังสามารถนำพวงหรีดดังกล่าวไปบริจาคให้กับหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ชีวิตมนุษย์ต่อไปและเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตด้วยเพื่อให้ตรงกับเจตนารมย์ของผู้เสียชีวิตแม้วาระสุดท้ายยังบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยบเหลือชีวิตผู้อื่นต่อไปจนได้รับการยกย่องให้เป็นครูด้านกู้ชีพกู้ภัยในที่สุด.