ลุงวัย68ปีขี่รถพ่วงข้างออกจากบ้านโดนดักยิง 2 นัด ตายริมถนนข้างป่ายูคา มุ่งปมขัดแย้งส่วนตัวหลังพบผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งหลายเรื่อง
*****มหาสารคาม..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เชิด อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ชื่นชม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 เมื่อเช้าวันที่ 9 ธ.ค.ว่ามีเหตุฆ่ากับตายริมถนนสายหนองกุง-เชียงยืน เขตรอยต่อระหว่างตำบลหนองกุง จึงพร้อมด้วยกู้ภัยอโสกจุดเชียงยืน เดินทางไปที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นทางหลวงชนบทถนนลาดยางสายหนองกุง-เชียงยืน บริเวณริมถนนเป็นป่ามันสำปะหลังและสวนไม้ยูคาลิปตัสของชาวบ้าน พบศพนายบุญมี แสนกุง อายุ 68 ปี ชาวบ้านหนองกุง ต.หนองกุง อ.ชื่นชม นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างทะเบียน ขงท-822 ร้อยเอ็ด ซึ่งตกลงไปข้างทางด้านทิศตะวันตก ตรวจดูร่างกายเบื้องต้นพบรอยกระสุนที่บริเวณลำตัวเหนือสะโพก และที่บริเวณขา และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่บนถนน จำนวน 2 ปลอก หลังเกิดเหตุได้ร่วมกับแพทย์ รพ.ชื่นชม ทำการชันสูตรพลิกศพไว้เบื้องต้น และต่อมาได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รพ.ศรีนครินทร์ โดยมีทางภรรยานางสาวมนฤดี รัตน์เพ็ชร อายุ 58 ปี ตามไปด้วย
*****สอบถามญาติ ทราบว่าผู้ตายขี่รถ จยย.พ่วงข้างออกจากบ้านเวลาประมาณ 06.00 น.เพื่อไปเก็บเงินค่าจอดรถที่ตลาด 9 ตำบลเชียงยืน ซึ่งตลาดเปิดทุกวันที่ 9,19,29 กรระทั่งมาถูกยิงตายในที่สุด ขณะที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ไปที่จุดเกิดเหตุไปหาข่าวและได้ไปเก็บภาพกล้องวงจรปิดตามร้านค้าและที่บ้านของผู้ตายเอาไว้เป็นพยานหลักฐาน โดยแนวทางการสืบสวนพบเบาะแสผู้ตายเป็นคนระมัดระวังตัวมาตลอด เนื่องจากมีเรื่องวิวาทบาดหมางและฟ้องร้องกับชาวบ้านหลายราย รวมทั้งพระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งถึงขั้นฟ้องร้องกันที่ศาลหลายคดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องฟ้องร้องกันกับญาติบางคนถึงขนาดมีการข่มขู่อาฆาตกัน เพราะผู้ตายเป็นคนหัวดื้อ ไม่ยอมคน หากไม่พอใจใครก็มักจะแต่งเรื่องร้องเรียนหรือฟ้องร้องชาวบ้านประจำ
***** ตำรวจประมวลจากพยานหลักฐาน ลงความเห็นว่า คนร้ายมีการวางแผนมาอย่างดี เพราะทราบว่าผู้ตายจะออกบ้านตอนไหนและอาศัยช่วงจังหวะไหนที่จะดักยิง อาศัยจุดเปลี่ยวที่ถนนไม่มีไฟและด้านข้างเป็นไร่มันสำปะหลัง และป่ายูคาลิตัส ดูร่องรอยก็อาจจะขับรถจักรยานยนต์ตามมาประกบยิงแล้วรถพ่วงก็เสียหลักพุ่งข้ามถนนลงไปในป่ายูคาลิปตัส ในชั้นนี้พุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว รายละเอียดของคดีตำรวจจะได้สอบสวนคลี่คลายให้แน่ชัดอีกครั้ง
