ชุดสืบสุพรรณโชว์ผลงานรวบ2โจรงัดตู้เติมเงิน
***สุพรรณบุรี..0 เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 ธ.ค. ที่หน้ากองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี มอบหมายให้ พ.ต.อ.วรพจน์ วีเปลี่ยน ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อม พ.ต.ท.สว่าง แป้นสุวรรณ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ 2 ราย พร้อมของการหลายรายการ โดย ทาง พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี รับแจ้งจากเจ้าของตู้เติมเงิน บุญเติม ว่ามีแก๊งงัดขโมยตู้ไปหลายที่โดนงัดไป 11 ตู้ ในรอบ 2 เดือน อำเภอเมือง 4 ตู้ อ.ศรีประจันต์ 2 ตู้ อ.สามชุก 1 ตู้ อ.ดอนเจดีย์ 1 ตู้ อ.อู่ทอง 2 ตัว อ.สองพี่น้อง 1 ตู้ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.เจริญ หลำคำ สว.กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.นิคม ขุนสอาดศรี รอง สว. นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆที่คนร้ายได้ลงมือก่อเหตุ
***จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายจะใช้ช่วงเวลา 5 ทุ่ม ถึง ตี 3 เป็นช่วงที่ก่อเหตุโดย คนร้ายจะสวมเสื้อคุมแขนยาว และมากัน 2 คน โดยใช้รถ จยย.เป็นยานพาหนะ ในการหลบหนี โดยจะรอคนปลอดคนแล้วจะเข้ามาใช้ชะแลงงัดนอตที่ยึดติดกับพื้นปูนออกแล้ว ช่วยกันยกตู้เติมเงินขึ้นรถ จยย.ที่นำมา จากนั้นจะไปหาที่งัดนำเงินออกมาแล้วนำตู้ไปโยนทิ้งน้ำ
***ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า 2 ครั้งที่คนร้ายได้ลงมือก่อเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี และจะทำห่างกันประมาณ 2-3 วัน และจะมาสำรวจก่อนเพื่อเลือกตู้ที่มีเงินเยอะ โดยจากการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตู้เติมเงิน คาดว่าคนร้ายเตรียมจะมาลงมือก่อเหตุอีก ทางตำรวจจึงได้วางแผนและนำกำลังไปเฝ้าดักซุ่มดูคนร้ายในจุดที่คาดว่าคนร้ายจะมาลงมือ ในเขตพื้นที่ติดต่อของ สภ.ดอนเจดีย์ และ สภ.สระแก้ว อ.เมือง
***ต่อมาช่วงเวลาตี 1 ของวันที่ 14 ธ.ค. ที่บริเวณริมถนนหน้าร้านสะดวกซื้อ ตลาดหนองพันกง หมู่ที่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง มีรถ จยย.ลักษณะตรงกับรถที่ใช้ก่อนเหตุและคนขี่ใส่เสื้อตัวเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุในกล้องวงจรปิด คือเสื้อคุมแขนยาวสีกรม และมีอักษรด้านหน้าเสื้อว่า HIPHOP จึงได้ทำการแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบซึ่งคนร้ายทราบชื่อนายภาคภูมิ ศรีภุมมา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258 หมู่ 5 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลาง รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 ทะเบียน 1 กช 4658 สุพรรณบุรี พร้อมเสื้อผ้าและอุปกรณ์งัดแงะ รับว่าเป็นคนเดียวกับในกล้องวงจรปิด และได้ทำร่วมกับนายทศพล แสนคำ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 13 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
***จากนั้นตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายภาคภูมิ และรวมรวมหลักฐานพร้อมออกหมายจับ ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการหาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และช่วงเช้าตำรวจได้นำหมายจับคดีเดียวกันเข้าจับกุมนายทศพล ที่บ้านพักใน อ.ดอนเจดีย์ พร้อมเข้าค้นพบของกลางเป็นเสื้อผ้าและหมวกกันน็อกที่สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ โดยทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง นำตัวชี้จุดก่อนดำเนินคดี
