2 พฤษภาคม 2024
Latest:
update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศ

นักท่องเที่ยวโวย ต้องเสีย ค่าตรวจATK 330บาทต่อคน ถึงไปได้ ยกเลิกทริปกันเพียบ ผู้ประกอบการวอนจังหวัดยกเลิกมาตรการเข้ม ก่อนที่การท่องเที่ยวเสม็ดจะเจ๊งกันหมด

*****ระยอง..ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ท่าเรือข้ามเกาะเสม็ด อ.เมืองระยอง เป็นท่าเรือหลักทั้ง3ท่าเรือ หลังพบมีนักท่องเที่ยวโพสต์บนโลกออนไลน์ร้องเรียน เกี่ยวกับมาตรการของ จ.ระยอง ที่นักท่องเที่ยวทุกคน ต้องมีผลตรวจATKไม่เกิน72 ชม. และต้องมีแพทย์และสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้รับรอง โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ทราบข้อมูล พอเดินทางมาถึงต้องเสียเงินค่าตรวจ 330 บาท ต่อคน จากสถานพยาบาลในพื้นที่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างก็ยกเลิกทริปไม่ไปต่อ

*****พอไปถึงที่ท่าเรือนวลทิพย์ หมู่ .2 ต.เพ บรรยากาศเงียบเหงา พบ น.ส.ปธิดา ลิ้มประสิทธิ์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เดิมอยู่ จ.สุรินทร์ พาคณะชาวสวีเดน  จำนวน 10 คน เพื่อข้ามไปเที่ยวเกาะเสม็ด แต่พอทราบถึงมาตรการต้องมีผลตรวจATK ภายใน 72 ชม.ถึงจะข้ามได้ จึงทำให้ทั้งหมดยกเลิกไม่ข้ามไปเที่ยวโดยน.ส.ปธิดา กล่าวว่า ตนเองพร้อมคณะ เดินทางมาจาก จ.สุรินทร์  พอมาทราบว่าต้องเสียเงินตรวจATK คนละ 330 บาท จึงสรุปว่าไม่ขอข้ามไปท่องเที่ยว เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป จำนวน 10 คน ต้องเสียเงินหลายพันบาท รู้สึกผิดหวังมากอุตส่าห์ตั้งใจพาชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวชมความงามของเกาะเสม็ด แต่ต้องยกเลิกกับค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป ทั้งๆที่ทุกคนต่างก็ฉีดวัคซีนมาครบ 2 เข็ม โดยเฉพาะชาวต่างชาติมีการกักตัวและตรวจATKมาหลายรอบแล้ว ซึ่งความจริงแล้วควรเห็นใจนักท่องเที่ยว เพราะที่เกาะช้าง จ.ตราด  ก็แค่ฉีดวัคซีนครบ2เข็มก็เข้าได้แล้ว ผิดหวังมากเสียเดินทางมาหลายชั่วโมงกลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

*****นางธารา บุญก่อเกื้อ อายุ 59 ปี ผู้บริหารท่าเรือเฟอรี่เกาะแก้วพิสดาร ท่าเรือเพ  กล่าวว่า หลังจากทางจังหวัด เริ่มใช้มาตรการตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.65 ทางท่าเรือได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะนักท่องเที่ยวต่างก็ไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าว พอเดินทางมาถึงเจอกับมาตรการนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเช้ามาเย็นกลับ ยกเลิกเกือบทั้งหมด จึงวอนให้ทางจังหวัดทบทวนยกเลิกมาตรการ ก่อนที่ผู้ประกอบการจะแบกภาระขาดทุนไม่ไหววันละ หนึ่งหมื่นบาท ขอให้นายชาญนะ   เอี่ยมแสง  ผวจ.ระยองช่วยเหลือด่วนและตนก็เชื่อว่าผู้ว่าช่วยเหลือได้

*****ส่วนนางชลิตา สกุลอุ่นทรัพย์ อายุ 51 ปี ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ท่าเรือเทศบาลตำบลเพ เผยว่า นักท่องเที่ยวต่างไม่พอใจกับมาตรการดังกล่าว เพราะต้องเสียเวลา และ เสียค่าใช้จ่ายเอง ในการตรวจกับราคาที่สูงเกินจริง คือราคา 330 บาทต่อคน หลังถูกโวยวาย ทางสถานพยาบาลที่รับตรวจก็ลดราคาลงมา เหลือคนละ 250 บาท ซึ่งราคาก็ยังสูง ส่วนใหญ่จะยกเลิกการเดินทางกันหมด เพราะรับไม่ได้ จึงขอให้ทางจังหวัดทบทวนผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว ก่อนที่เกาะเสม็ดจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเยือน

*****ด้านนายยานยนต์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกสมาคมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวเกาะเสม็ด อายุ 57 ปี  กล่าวว่า เกี่ยวมาตรการ ให้นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมีผลตรวจATK ภายใน 72 ชม.จึงจะสามารถเดินทางข้ามไปเที่ยวที่เกาะเสม็ด ได้ก่อให้เกิดผลกระทบกับทางผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเกาะเสม็ดเป็นอย่างมาก ที่ต้องประสบปัญหานักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว ยกเลิกการเดินทางไปเที่ยวเกาะเสม็ด หลังมาเจอกับมาตรการดังกล่าว ต่างก็ยกเลิกกันหมด เพราะส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าว พอมาเดินทางมาถึงพบค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าโดยสารเรือ นักท่องเที่ยวหายไปมากจนท่าเรือแทบร้าง สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ต้องแบกภาระขาดทุน ขอฝากให้ทางจังหวัดยกเลิกมาตรการดังกล่าว ให้คงมาตรการเหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น เช่นที่ จ.ภูเก็ต และ เกาะช้าง จ.ตราด เป็นต้น ที่กำหนดแค่ฉีดวัคซีนครบ2เข็มก็สามารถผ่านไปได้ หรือไม่ทางภาครัฐก็ควรมีการสนับสนุนการตรวจATKให้กับนักท่องเที่ยว โดยการมาตรวจในจุดที่ใกล้กับท่าเรือเพื่อสะดวกต่อนักท่องเที่ยว หากยังคงมาตรการต่อไป การท่องเที่ยวของเกาะเสม็ดพังแน่ ด้านนักท่องเที่ยวต่างก็รับไม่ได้กับค่าตรวจATKที่สูงเกินไป ในเมื่อมึการกำหนดมาตรการขึ้นมาก็ควรที่จะมีบริการรองรับ ไม่ใช่มาให้นักท่องเที่ยวมาแยกรับภาระค่าใช้จ่ายเอง และ ค่าตรวจATKก็สูงเกินไป

*****ขณะที่นายอนันต์ นาคนิยม รองผวจ.ระยอง กล่าวว่า สำหรับมาตรการดังกล่าว หลังจากที่มีการประกาศใช้ ตั้งแต่วันที่20ม.ค.65 เป็นต้นมา พบว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวไม่สามารถรับกับมาตรการดังกล่าวได้ ในเรื่องราคาตรวจATKที่สูงถึง 330 บาท ความจริงแล้ว มีสถานบริการหลายแห่งมาให้บริการ โดยมีราคา 330 บาท และ 250 บาท หรือซื้อชุดATK ไปตรวจที่ รพ.สต.เพ สำหรับผลกระทบดังกล่าวทางจังหวัดเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการต่อไปป

นิตยา  ทุมมานนท์/รายงาน