update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศสาธารณสุข

นายอำเภอประชุมนัดพิเศษร่วมวางมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ให้คุมเข้มขึ้น

***กาญจนบุรี ..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า การประกาศปิดพื้นที่หรือล็อกดาวน์ห้ามเข้า-ออกอำเภอ เป็นอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยต้องดำเนินการภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

***ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ประกอบด้วย 4 คลัสเตอร์ โดยคลัสเตอร์ที่ 1 บ้านพระเจดีย์สามองค์ และคลัสเตอร์ที่ 2 ด่านศุลกากรสังขละบุรี สามารถจำกัดวงควบคุมโรคได้แล้ว ส่วนคลัสเตอร์ที่ 3 กลุ่มที่ประชุมชาวเรือชาวแพ กำลังจะตัดวงการแพร่ระบาดของโรคได้ ที่ยังคงน่าเป็นห่วงคือคลัสเตอร์ที่ 4 เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่ติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก 20 คน อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ในวงแคบเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัว หากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 22 คน ผลตรวจออกแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จะสามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคได้

*** อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้วางมาตรการร่วมกันเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโดยเฉพาะในห้วงระยะเวลา 14 วันนับจากนี้ จะใช้จุดตรวจร่วมเพื่อความมั่นคงชายแดนที่จังอั่ว และรันตี เป็นด่านหน้าในการคัดกรองบุคคลและเก็บข้อมูลผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานและประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด นอกจากนี้เมื่อถึงบ้านพักแล้วต้องแจ้งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประสานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ไปช่วยดูแลในช่วงระยะเวลาที่ต้องกักตัว 14 วัน

***สำหรับเจ้าหน้าที่ราชการที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงเมื่อกลับมาต้องแจ้งหน่วยงานด้านสาธารณสุขเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป นอกจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังให้ประชาชนสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกนอกเคหะสถาน หากไม่ปฏิบัติตามในครั้งแรกจะเรียกตักเตือนและลงบันทึกประจำวัน เมื่อพบผู้กระทำความผิดเป็นครั้งที่ 2 จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับทันที ส่วนผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะทั้งรถตู้โดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดกาญจนบุรี-อำเภอสังขละบุรี รถจักรยานยนต์รับจ้าง และกลุ่มชาวเรือให้บริการนำเที่ยว จะต้องทยอยตรวจโควิด-19 คัดกรองโรคเชิงรุก

*** ในกรณีที่เป็นผู้ขับรถขนส่งสิ่งของทุกครั้งที่เข้าออกพื้นที่จะมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในรถบริเวณจุดตรวจ มีการเก็บข้อมูลบุคคลเพื่อใช้ในการเรียกตัวมาสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่วนเจ้าหน้าที่หรือองค์กรใดที่จะเข้ามาจัดโครงการหรือกิจกรรมในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีจะต้องแสดงผลการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง หรือมีใบรับรองการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม หรือแอสตราเซเนกาแล้ว 1 เข็ม จึงจะอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ได้ ส่วนโรงแรมที่พักหากมีผู้เข้าพักจะต้องแจ้งรายชื่อและข้อมูลพื้นที่ฐานของทุกคน โดยเจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19

***ทั้งนี้ในที่ประชุมยังมีการหารือถึงการล็อกดาวน์พื้นที่และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ควบคู่กันไประหว่างเรื่องของการควบคุมโรค และปัญหาปากท้องของประชาชนในด้านเศรษฐกิจ โดยหลายฝ่ายเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าหากล็อกดาวน์ไปแล้วประชาชนยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หรือการเว้นระยะห่าง การล็อกดาวน์ก็ไม่สามารถช่วยระงับการแพร่ระบาดของโรคได้ เพราะในอนาคตอาจจะมีผู้นำเชื้อโควิด-19 กลับมาสู่พื้นที่ได้อีกครั้ง ดังนั้นแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่ดีที่สุด คือ การปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA กับทุกคนรวมถึงคนในครอบครัวก็ควรเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากเมื่อต้องอยู่ร่วมกัน

จิตรภานุ ทองผาภูมิพรทวี/รายงาน