update newsข่าวเด่นข่าวในประเทศ

กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนฯ ลงพื้นที่บ้านแม่สามแลบ ติดตามสถานการณ์ชายแดน จุดผ่อนปรนการค้า การบริหารจัดการและการปฎิบัติหน้าที่การรองรับผู้หลบหนีภัย

*****แม่ฮ่องสอน..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.67  นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร  นายมานพ คีรีภูวดล นายวัชระ  ยาวอหะซัน  นายชุติพงศ์  พิภพภิญโญ นางปทิดา  ตันติรัตนานนท์  นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม และนายรอมฎอน  ปันจอร์ ได้ ลงพื้นที่ บ้านแม่สามแลบ  โดยมี นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผวจ.แม่ฮ่องสอน   นายศราวุธ ทังดิน นายอำเภอสบเมย  พันเอกสมภพ ใจบุญ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36   นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ พ.ต.อ.จะเด็ด หินทองคำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสบเมย นายณัฎพล เอกแสงศรี รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากรแม่สะเรียง  ผู้นำชุมชน   และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือสถานการณ์พี่น้องไทย-เมียนมา  ณ ศาลาริมน้ำบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน*

*****ในระดับพื้นที่ได้เสนอแนวทางการบริหารจัดการชายแดนฝั่งบ้านแม่สามแลบ ซึ่งเป็น อีกหนึ่งจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่สร้างงานสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนทั้งสองฝากฝั่งชายแดนไทย-เมียนมา โดยทาง นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ   ได้นำเสนอประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง คือ 1.การบริหารจัดการชายแดน  2.การค้าชายแดน 3.การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และ 4.สถานการณ์ปัญหา สาธารณูปโภค การพัฒนาตามแนวชายแดน  ทั้งนี้ได้ฝากคณะกรรมาธิการฯ ดูเรื่องการเปิดนำเข้าโค-กระบือ เนื่องจากเป็นรายได้หลักของคนในพื้นที่ จะทำให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนกระเตื้องสะพัดขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากการค้าขายด้านเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่ง 90% ประเทศเพื่อนบ้าน นำเข้าสิ่งของเครื่องใช้จากประเทศไทย

*****ทางด้านคณะกรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่จริงเพื่อรับทราบข้อมูล/ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ สภาพปัญหาด้านความมั่นคง ,ความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่,รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบตามบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา, การบริหารจัดการและการปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนที่ผ่านมา โดยมีประเด็นที่สำคัญดังนี้ สถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน ฝ่ายความมั่นคงได้ชี้แจงว่าปัจจุบันสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเนื่องจากฝ่าย ทหารเมียนมาได้ถอนกำลังตามแนวชายแดนกลับเข้าไปในเขต ซึ่งชนกลุ่มน้อย สามารถควบคุมพื้นที่ตามแนวแม่น้ำสาละวินได้เกือบทั้งหมด ทำให้การดำรงชีวิตประจำวันของราษฎรทั้ง 2 ฝั่งอยู่ในภาวะปกติ

*****สำหรับ สภาพการค้าชายแดน,เศรษฐกิจ เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐซึ่งในพื้นที่มีระบบการค้าขายแบบประชาชนกับประชาชนทั้งสองฝั่ง ด้านศุลกากรได้ชี้แจงว่า ปัญหาและอุปสรรคการนำเข้า – ส่งออกสินค้า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาจะเป็นตัวกำหนดว่าได้หรือไม่, ในห้วงที่ผ่านมาสินค้าออกซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเภทอุปโภคและบริโภค การดำเนินการเป็นไปตามระบบ/ข้อบังคับ ไม่มีปัญหาหรือผลกระทบใดๆ,การสั่งซื้อสินค้าของชุมชนในรัฐกะเหรี่ยง ฝั่งเมียนมาไม่มีข้อกังวลเพราะการสั่งซื้อจะผ่านผู้นำในพื้นที่อยู่แล้ว สำหรับสินค้าเข้า ส่วนใหญ่จะเป็นประเภท โค,กระบือ และแร่ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างชะลอการนำเข้า ทำให้มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการและรายได้ของราษฎรที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป  ซึ่งทางด้านฝ่ายความมั่นคง มีความกังวล เรื่องความปลอดภัยในการเดินเรือในแม่น้ำสาละวิน การค้าขายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินเรือ  นอกจากนี้ในส่วนของ อบต.แม่สามแลบฯ กล่าวว่าปัจจุบัน จนท.ที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดนและฝ่ายความมั่นคง มีภารกิจมากมายจึงเสนอให้ตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการดูแลค้าชายแดนในพื้นที่โดยเฉพาะเพื่อความรวดเร็วและตอบสนองความต้องการของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งได้

*****สำหรับ  ข้อห่วงใยของคณะกรรมาธิการฯ  ระบุว่า สถานการณ์การสู้รบในเมียนมามีแนวโน้มว่าจะบานปลาย ส่งผลทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบ น่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้หน่วยงานส่วนต่างๆมีความพร้อมอยู่เสมอเพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา