เครือข่ายกัญชา สู้ไม่ถอย หวังดึงกลับอยู่ในวิถีชุมชน เร่งผลักดันศูเครือข่ายกัญชา สู้ไม่ถอย หวังดึงกลับอยู่ในวิถีชุมชน เร่งผลักดันศูนย์ยากัญชาระดับชุมชน
*****พัทลุง..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายกัญชา กล่าวระหว่างการ อบรมทำยากัญชารุ่นที่ 2 จังหวัดพัทลุง ว่า จากการเรียนรู้ร่วมกันทำให้เราตระหนักว่า กัญชาคือพืชที่สามารถใช้รักษาตัวเองของประชาชนโดยที่ประชาชนสามารถปลูกและทำยาเองได้ โดยจากประสบการณ์การรักษาด้วยกัญชาในพื้นที่ภาคใต้ พิสูจน์อย่างชัดเจนว่ายากัญชาสามารถรักษาสารพัดโรค และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนของระบบสาธารณสุขของประเทศ
***** “กัญชาจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบสาธารณสุข ตัวเลขอัตราการตายด้วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลตัวเลขผู้ป่วยที่เกี่ยวกับระบบจิตประสาทจะกลายเป็นโรคสามัญ สิ่งแวดล้อมรอบตัวกลายเป็นปัจจัยคุกคามสุขภาพ ด้วยปัจจัยแวดล้อมทั้งหมดจะส่งผลให้ปัญหาด้านสุขภาพกลายเป็นปัญหาพื้นฐานที่สุดของครัวเรือน เพราะเมื่อคนหนึ่งป่วย ระบบเศรษฐกิจของครอบครัวจะมีปัญหา ตลอดจนสภาพจิตใจของคนในครอบครัวจะได้รับผลกระทบ หนึ่งคนป่วยเท่ากับหนึ่งครอบครัวป่วยการเพิ่มขึ้นของตึกโรงพยาบาลไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จด้านสุขภาพ” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
*****นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาระบบสาธารณสุขไม่อาจกระทำได้ด้วยการแก้ที่ปลายเหตุแต่ต้องแก้ที่รากฐานนั่นคือจะต้องทำให้ประชาชนมีความสามารถในการดูแลสุขภาพและรักษาโรคได้ด้วยตัวเอง แต่จะกระทำเช่นนี้ได้จะต้องมีระบบการแพทย์อีกชนิดหนึ่งที่ประชาชนสามารถเข้าถึงการผลิต การทำยา และมีระบบภูมิปัญญาที่จะใช้ในการรักษาและดูแลสุขภาพ ซึ่งประเทศในโลกตะวันออกหลายประเทศมีภูมิปัญญาในการรักษา รวมทั้งประเทศไทย กัญชามีคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการรักษาและป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การพลิกฟื้นระบบสุขภาพของประเทศ หากประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาและทำยารักษาโรคได้จะทำให้ลดการเจ็บป่วยของประชาชนในประเทศลง ทั้งโรคพื้นฐานและโรคที่ยากจะรักษาหาย
***** “เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้จัดกิจกรรมการอบรมเพื่อทำให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาและนำไปสกัดเป็นยารักษาโรคให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้และในขั้นต่อไปเราจะผลักดันให้เกิดศูนย์ยากัญชาในระดับชุมชนขึ้นเพื่อทำให้ประชาชนในพื้นที่นั้นใช้กัญชาสำหรับการป้องกันและรักษาโรค รวมทั้งกระบวนการวิจัยการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพของประชาชนที่ใช้กัญชาในการป้องกันและรักษาโรคเมื่อเกิดศูนย์ยากัญชาระดับชุมชนและผลของจากการวัดการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพหลังการใช้กัญชาเป็นที่ประจักษ์จะเป็นปัจจัยพิสูจน์ว่ากัญชาคือจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของระบบสุขภาพ” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
*****นายประสิทธิ์ชัย กล่าวตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เมื่อกัญชามีคุณสมบัติถึงเพียงนี้จึงทำให้บริษัทยาแผนปัจจุบันที่ค้าขายยากับระบบสาธารณสุขของประเทศไทยมานานและมีมูลค่าหลายแสนล้าน ต้องหาทางขัดขวางกัญชาอย่าเต็มที่ เพราะหากประชาชนเข้าถึงได้จะนำไปสู่การลดการใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยพบว่ารัฐที่เปิดให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาจะลดการพึ่งพายาแผนปัจจุบันลงวาระของกัญชาในฐานะความมั่นคงทางยาของประชาชนจึงเป็นวาระสำคัญของระบบสาธารณสุขไทยซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยในการพลิกฟื้นระบบสุขภาพระดับชุมชน เพื่อลดการสูญเสียจากการเจ็บป่วยของครัวเรือนลง ฉะนั้นการขัดขวางไม่ให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาของกลุ่มนักการเมือง กลุ่มแพทย์แผนปัจจุบัน และบุคคใดก็ตาม เท่ากับขัดขวางการมียารักษาตัวเองของประชาชน
*****เมื่อความรู้กัญชาอยู่กับประชาชนและผลิตภัณฑ์จากกัญชากลับมาอยู่ในชีวิตของผู้คน กัญชาจะไม่หายไปจากแผ่นดิน และคำกล่าวร้ายต่อกัญชาจะสาบสูญ ก้าวต่อไปของเขียนอนาคตกัญชาไทยคือการผลักดันให้เกิดศูนย์ยากัญชาระดับชุมชนพื้นที่ไหนอยากร่วมกันทำศูนย์ยากัญชาชุมชนสามารถประสานงานติดต่อกันที่เพจเขียนอนาคตกัญชาไทยโดยมีเงื่อนไขสำคัญคือมีกลุ่มบคคลที่เอาจริง อบรมทำยากัญชารุ่น 3 ที่นครศรีธรรมราช วันที่ 1 เมษายน 2566 ณ.ฟูลมูลเฮ้าส์บาร์ 77 ถ.เทวบุรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ท่านใดสนใจสมัครได้ที่เพจเขียนอนาคตกัญชาไทย เพื่อการคืนภูมิปัญญาการรักษาด้วยกัญชาสู่ประชาชน
