เพื่อสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกร

*****แพร่..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร อนุสาสนนันท์ รอง ผวจ.แพร่ ประธานเปิดงาน”วันกาแฟและหม้อห้อมแพร่ 2564  Phrae Coffee & Indigo Craft Fair” ที่บ้านวงศ์บุรี อ.เมืองแพร่ เมื่อเย็นวันที่ 27 พ.ย.64  โดยนายประภาส สานอุป เกษตรจังหวัดแพร่ กล่าวรายงาน เพื่อสร้างเครือข่ายด้านการตลาด ด้วยการเพิ่มช่องทางการตลาด รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์กาแฟ และห้อมแพร่ จากแหล่งเพาะปลูกและแหล่งรวบรวมผลผลิต เพื่อเป็นการสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟและห้อมให้สามารถแข่งชันกันทั้งภายในประเทศและต่างประเทศได้รวมทั้งสามารถพัฒนาและยกระดับคุณภาพกาแฟและห้อมในจังหวัดแพร่ ให้ตรงกับความต้องการของตลาด ผู้ประกอบการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

*****ภายในงานประกอบไปด้วย กิจกรรมการแสดงและจำหน่ายสินค้ากาแฟ และสินค้าเกษตรปลอดภัยของจังหวัดแพร่ จำนวน 30 คูหา การจำหน่ายผลิตภัณฑ์หม้อห้อมแพร่จำนวน 15 คูหา รวมถึงการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับกาแฟ และนิทรรศการผ้าหม้อห้อมแพร่การ Cupping Coffee การเจรจาธุรกิจ การเสวนา การเดินแฟชั่นผ้าหม้อห้อมแพร่และกิจกรรมบันเทิง การแสดงดนตรี ตลอดทั้ง 2 วัน คือ วันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00  -23.00 น.พร้อมกับมอบเครื่องหมาย Trade mark แก่ผู้ประกอบการกาแฟแพร่

*****สำหรับจังหวัดแพร่ มีพื้นที่ปลูกกาแฟ ประมาณ 2,825 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมืองแพร่ อำเภอลอง อำเภอร้องกวาง อำเภอวังชิ้น และอำเภอเด่นชัย สำหรับกาแฟมีการซื้อขายกาแฟพันธุ์โรบัสต้า และกาแฟพันธุ์อาราบิก้า รวมกว่า 1,200 ตันต่อปี เป็นมูลค่าถึง 8 ล้านบาทต่อปี ในส่วนหม้อห้อม หรือฮ่อม มีพื้นที่ปลูกประมาณ 35 ไร่ ปลูกในพื้นที่ตามสภาพธรรมชาติ บริเวณไหล่เขา เนินเขา ผสมผสานกับพืชอื่นพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่ที่สำคัญ ได้แก่ อ.เมืองแพร่ และอ.ร้องกวาง มีจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกห้อมรวม 85 ราย ความต้องการของผู้ประกอบการในการใช้ห้อมสดเพื่อนำมาทำห้อมเปียกซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการย้อมผ้าประมาณ 146 -219  ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่า 1.46 -2.19  ล้านบาทต่อปี

*****นอกจากนั้นจังหวัดแพร่ ยังเป็นแหล่งผลิตผ้าพื้นเมือง ที่มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น คือผ้าหม้อห้อมหรือเสื้อหม้อห้อม เป็นผ้าทอพื้นเมืองที่สำคัญของจังหวัด เป็นสิ่งสะท้อนถึงความงามทางวัฒนธรรมการแต่งกายของคนเมืองแพร่ มีการย้อมผ้าจากสีของต้นห้อม เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพ การผลิตกาแฟและห้อมของเกษตรกรในจังหวัดแพร่ให้สามารถแช่งขันทางการตลาดได้ จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟตามแผนยุทธศาสตร์กาแฟ ปี 2560 – 2564  เพื่อให้เกษตรกร สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติช่วยในการลดต้นทุนการผลิตทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น และผลผลิตที่ได้มีคุณภาพที่ดีขึ้น