17 พฤษภาคม 2024
Latest:
update newsข่าวเด่นวัฒนธรรมศาสนา-วัฒนธรรม

ตื่นตาหม้อสลากยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกในประเพณีตานสลากข้าวหม้อที่วัดพระธาตุช่อแฮ

*****แพร่..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่14 ก.ย.66  พระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ประธานฝ่ายสงฆ์ นายธาตรี บุญมาก รองผวจ.แพร่ ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยคณะศรัทธาสาธุชน ร่วมสืบสานงานประเพณีตานสลากข้าวหม้อ เวลา 08.00 น.คณะศรัทธาสาธุชนนำหม้อดินสลากมาตั้งวางไว้ในพระอุโบสถ ถัดจากนั้น ฟังพระปาฏิโมกข์ ณ พระอุโบสถวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวงเวลา 10.00 น.ประกอบพิธีทางศาสนาต่อกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล แสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง อานิสงส์ตานสลากข้าวหม้อโดย พระครูใบฎีกา ชัยยงค์ ชยรติธโร เจ้าอาวาสวัดป่าแดง มัคนายกสมมาครัวตาน เวนตานสลากข้าวหม้อและถวายตานสลากข้าวหม้อพระสงฆ์จำนวน 4 รูป อุปโลกน์สลากภัตตัวแทนคณะศรัทธาประเคนสลากข้าวหม้อ แด่ พระสงฆ์พระสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนาถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ  สามเณร เสร็จพิธีตานสลากข้าวหม้อ ปีนี้มีสลากข้าวหม้อ 228 หม้อ จำนวนพระสงฆ์ตำบลป่าแดง ตำบลช่อแฮ ร่วมงานจำนวน 11 วัด พร้อมนี้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวตื่นตากับสลากข้าวหม้อที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก

*****พระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เจริญพร ถึงความเป็นมาประเพณีโบราณตานสลากข้าวหม้อวัดพระวัดพระธาตุว่า นับว่า ประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวที่เป็นจุดกำเนิดแห่งแรกในประเทศไทยและในโลก และเป็นประเพณีหนึ่งเดียวที่พระภิกษุสงฆ์มาร่วมงานมาด้วยความสมัครใจ(ไม่มีการนิมนต์) เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในวันเดือนดับ ประเพณีนั้นก็คือ ประเพณีตานสลากข้าวหม้อ คือการใช้หม้อดิน (หม้อที่ปั้นด้วยดินและนำไปเผา) เป็นภาชนะบรรจุด้วยเครื่องไทยธรรม ประกอบด้วย พริก ข้าวสาร เกลือ หอม เมี่ยง หมาก ไม้ขีดไฟอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้เนต้น (หม้อดินเป็นปริศนา ให้คนรู้จักการใช้ชีวิตหม้อดินซึ่งแตกสลายง่าย ต้องประคับประคองชีวิตให้ดี ทำให้คนไม่ประมาทรู้วัน เวลาในการทำงาน ทำความดีละเว้นความชั่ว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติที่ล่วงลับไปและเป็นการสะเคราะห์เคราะห์(นำสิ่งที่ไม่ดีออกไป) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในสมัยก่อน เมื่อเสร็จงานจะได้นำหม้อดินมาใส่น้ำดื่ม น้ำใช้และใส่สิ่งของอื่น สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือเพื่อสร้างความปรองดองในครอบครัวและสังคม ซึ่งมีขึ้นในวันแรม ๑๔ค่ำ เดือน 9 ใต้ เดือน 11 เหนือทุกปี ซึ่งเป็นวันเดือนดับ