สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเข้าสู่สภาวะวิกฤต บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระ ทั้งในเขตอำเภอสามโคกและอำเภอเมือง จำนวนมากจมบาดาล
*****ปทุมธานี..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค 65 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เริ่มเข้าสู่สภาวะวิกฤต โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระ ทั้งในเขตอำเภอสามโคก และ อำเภอเมือง จำนวนมากต้องอยู่กันอย่างเฝ้าระวังเพราะน้ำขึ้นในช่วงเวลากลางคืน และบ้านบางหลังไม่สามารถที่จะพักอาศัยได้ต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติที่น้ำไม่ท่วม ส่วนทางด้านการป้องกันยังพบว่า แต่ละพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเขตเทศบาล อบต.จะมีเจ้าหน้าที่นำกำลังมาช่วยกันวางแนวกระสอบทรายให้สูงกว่าเดิมเพิ่มทุกวันพร้อมกันนี้ ผู้นำชุมชนยังคอยเฝ้าดูและคอยระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันแนวกระสอบทรายไม่ให้พัง และไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าในพื้นที่เศรษฐกิจอีกด้วย
*****ขณะที่นายมานิตย์ แก้วพวง นายก ทต.เชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก นายพรวิศิษฎ์ เขียวอำพร รองนายก ทต.เชียงรากใหญ่ นายประกิจ ทองใบ รองประธานสภา ทต.เชียงรากใหญ่คณะสมาชิกเทศบาลฯ ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่ ม.1-7 ผู้นำชุมชน และทหารจากกองทัพบก ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.เชียงรากใหญ่ มาช่วยกันตักทรายใส่กระสอบแล้วนำไปเสริมคันแนวกั้นน้ำริมถนน บริเวณ หมู่ 6-7 ในระยะทางประมาณ 3 กม. พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ และขอให้ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน คอยจับตาเฝ้าดูและคอยระวังอย่างใกล้ชิด ในการป้องกันแนวกระสอบทรายพัง เพื่อไม่ให้น้ำไหลหรือน้ำทะลักเข้าในพื้นที่ในคันกั้นน้ำ รวมทั้งขอความร่วมมือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอดทน
*****นายมานิตย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำขึ้นในวันนี้ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาจำนวนมาก ทำให้เมื่อคืนน้ำทะลักล้นข้ามแนวกระสอบทราย มายังพื้นที่ชั้นในซึ่งหากไม่รีบแก้ไขหรือดำเนินการเสริมแนวกระสอบทรายขึ้นอีกพื้รที่เศรษฐกิจจะเสียหายอย่างมาก ดังนั้นตนและคณะผู้บริหารเทศบาลทุกคนจึงต้องสั่งการให้นำกระสอบทรายไปเสริมขึ้นอีก2ชั้น โดยได้กำลังจากทหารบกมาช่วย ส่วนระดับน้ำตนคาดว่าน้ำจะสูงขึ้นอีกโดยเฉพาะเวลากลางคืน จากแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนั้นพื้นที่บริเวณวัดถั่วทอง ต.บ้านปทุม อ.สามโคก ที่มีน้ำล้นทะลักเข้ามาจนน่าเป็นห่วง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่พร้อมสั่งการให้ทำแนวคันดินและกระสอบทรายเพื่อไม่ให้น้ำท่วมสถานที่สำคัญของวัดและก็สามารถดำเนินการได้สำเร็จ ส่วนที่วัดโพธิ์เลื่อน วัดสำแล ต.บ้านกระแชง อ.เมืองปทุมธานี พบว่าน้ำยังท่วมสูงจะเกือบถึงบันไดเมรุเผาศพขั้นสุดท้ายแล้วเช่นกัน เจ้าหน้าที่ อบต.บ้านกระแชง จึงนำกำลังมาเสริมแนวถนนหน้าวัดให้สูงขึ้นอีกมากกว่าดิม
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน
