พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านบางบัวทองกว่า 50 คนรวมตัวร้องผู้ว่านนท์ หลังเทศบาลขึ้นค่าเช่าตึก 200%
*****นนทบุรี..ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรินทร์ รัตนประภานันท์ นายสุรพงษ์ วัชรวิทยากร ตัวแทนชาวบ้าน พร้อมพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านในตลาดบางบัวทอง รวมตัวกันศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ร้องเรียนนายสุธี ทองแย้ม ผวจ.นนทบุรี เดือดร้อนจากการเช่าอาคารพาณิชย์ โดยมีนายทรรศน์ธรรม ภูวรัตนโชติ์ ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรี น.ส.พรทิพย์ สมรักษ์ นิติกรชำนาญการเทศบาลเมืองบางบัวทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเทศบาลเมืองบางบัวทอง ได้ประกาศเรื่อง การเช่าอาคารพาณิชย์ แจ้งเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง ลงวันที่ 28 ก.ย.65 โดยมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการจัดเก็บเช่าอาคารพาณิชย์ และเปลี่ยนแปลงระยะเวลาในการเก็บค่าเช่า ทำให้ชาวตลาดบางบัวทอง ได้รับความเดือดร้อน จึงมาร้องขอให้ทบทวนประกาศดังกล่าวใหม่และชะลอระยะเวลาออกไป
*****สำหรับอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ตลาดบางบัวทอง ชาวบ้านได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2505 โดยเงินส่วนตัวของชาวบ้านเอง บนพื้นที่ของเทศบาลเมืองบางบัวทองและมีระยะเวลาในการเช่าพื้นที่นาน 30 ปี โดยสามารถอาศัยอยู่กันได้ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน จากนั้นได้มีการต่อสัญญากันมาตามระยะเวลา จนเมื่อวันที่ 28 ก.ย.65 ได้มีประกาศของเทศบาลเมืองบางบัวทอง เรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าและปรับเพิ่มค่าเช่า โดยแจ้งให้ผู้เช่าทราบพร้อมทั้งจะเริ่มดำเนินการภายใน 15 วัน รับจากวันรับหนังสือ โดยอัตราการปรับเพิ่มค่าเช่าสูงขึ้น 100-200% ,มีระยะเวลาในการเช่า 3 ปี และการเรียกเก็บค่าโอนกรรมสิทธิครั้งละ 60,000 บาทต่อห้อง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนผู้เช่าที่มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย เพราะประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และจากปัญหาเศรษฐกิจ ชาวบ้านจึงมาขอความเป็นธรรมโดย1.ให้ขยายเวลาออกเป็น 10 ปีดังเดิม 2.ขอให้ทบทวนเรื่องอัตราค่าเช่าใหม่ 3.เรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าส่งต่อให้ลูกหลาน ขอให้งดเว้นค่าธรรมเนีย
***** นายสุรินทร์ รัตนประภานันท์ ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า วันนี้ได้รวมตัวกันมาร้องขอความเห็นใจจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในเรื่องให้ประสานกับทางเทศบาลเมืองบางบัวทองในเรื่องการต่อสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ในตลาดบางบัวทอง ซึ่งเป็นการลงทุนสร้างอาคารโดยชาวบ้านบนพื้นที่เทศบาล โดยมีระยะเวลาเช่าช่วงแรก 30 ปี และต่อสัญญาครั้งละ 10 ปี แต่เมื่อมาถึงครั้งล่าสุดทางเทศบาลได้เปลี่ยนเป็นให้ต่อสัญญา 3 ปี ชาวบ้านคิดว่ามันเร็วไป รวมทั้งอัตราการขึ้นค่าเช่า 100-200% ชาวบ้านขอให้ทบทวนใหม่โดยให้คิดอัตราให้เหมาะสมตามสถานที่ วันนี้ทางจังหวัดได้เชิญตัวแทนเทศบาลมาเพื่อพูดคุยกัน เบื้องต้นชาวบ้านขอให้ชะลอการเรียกเรื่องต่อสัญญาออกไปก่อน ส่วนเรื่องค่าเช่าและระยะเวลาจะมีการเข้าไปคุยกับเทศบาลอีกครั้ง โดยทางจังหวัดเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและเห็นใจชาวบ้าน จึงให้เทศบาลกลับไปทบทวนประกาศอีกครั้งและเรียกชาวบ้านเข้ารับฟังเพื่อหาข้อตรงลงที่เหมาะสมต่อไป
